สัมภาษณ์:รศ.ดร.นันทนา:ประชาชนโอบอุ้มพิธาเป็นนายกฯ 8ปีไม่เคยเจอผู้นำที่ดี

ในสังคมที่เติบโตอย่างรวดเร็วของปัจจุบัน การมีผู้นำที่มีความสามารถและประสบการณ์เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการนำทีมและองค์กรไปสู่ความสำเร็จ ในบทสัมภาษณ์ครั้งนี้ เราจะได้พบกับรศ.ดร.นันทนา ผู้เป็นนักวิชาการชาวไทยที่เคยเป็นนายกฯ ขององค์การโอบอุ้มพิธาเป็นเวลา 8 ปี โดยไม่เคยเจอผู้นำที่ดีกว่าท่าน เราจะได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางของท่านในการเป็นผู้นำ ความท้าทายที่เคยเผชิญ และคำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการที่กำลังพัฒนาทักษะในการเป็นผู้นำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประวัติ พญ.นันทนา

สัมภาษณ์:รศ.ดร.นันทนา:ประชาชนโอบอุ้มพิธาเป็นนายกฯ 8ปีไม่เคยเจอผู้นำที่ดี :Matichon TV - YouTube

รศ.ดร.นันทนาเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติทางวิชาการและความชำนาญในสาขาของเขา โดยมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในสาขาของเขา ภายใต้การนำของท่าน องค์การโอบอุ้มพิธาได้รับการพัฒนาและเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ท่านเคยเป็นนายกฯ ขององค์กรนี้เป็นเวลา 8 ปี โดยที่ไม่เคยพบผู้นำที่ดีกว่าท่าน ท่านเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่ผู้อื่นที่ต้องการพัฒนาทักษะในการเป็นผู้นำ

ความสำคัญของความเป็นผู้นำ

การมีผู้นำที่มีความสามารถและประสบการณ์มีความสำคัญสูงสุดในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นในองค์กรธุรกิจ เอกชนหรือหน่วยงานภาครัฐ ผู้นำมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางและนโยบายขององค์กร พวกเขาสามารถสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นผู้ลงมือในทีมงานให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เส้นทางผู้นำของดร.นันทนา

สัมภาษณ์ : รศ.ดร.นันทนา ประชาชนโอบอุ้มพิธาเป็นนายกฯ 8 ปี ไม่เคยเจอผู้นำที่ดี

รศ.ดร.นันทนามีการเดินทางที่น่าประทับใจในการเป็นผู้นำ การนำทีมและก่อสร้างองค์กรให้เติบโตเป็นเวลา 8 ปีโดยที่ไม่เคยเจอผู้นำที่ดีกว่าท่าน ท่านมีความสามารถในการแนะนำและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ในทีม ท่านยังเคยพบกับความท้าทายในการเป็นผู้นำและได้เรียนรู้จากประสบการณ์ดังกล่าว

ความท้าทายที่ต้องเผชิญ

ในการเป็นผู้นำ รศ.ดร.นันทนาเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการทีมงานที่หลากหลาย การตัดสินใจที่ยากลำบาก หรือการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นภายในองค์กร แต่ท่านได้มองในแง่บวกและเอาใจใส่ในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ท่านได้นำเสนอแนวทางการแก้ไขและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ทีมงาน

ความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง

นายกฯชื่อ “พิธา” เป็นไปไม่ได้ | สถานการณ์ | ข่าวช่อง8 - YouTube

Transformational leadership เป็นแนวคิดในการนำทีมและองค์กร ที่เน้นการสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ในสมาชิกในทีมงาน แบบนี้ช่วยให้สมาชิกในทีมมีความรับผิดชอบสูงขึ้น และสามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและวางแผนในองค์กรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ความสำเร็จและผลกระทบ

ด้วยความน่าประทับใจของรศ.ดร.นันทนาในการเป็นนายกฯ องค์กรโอบอุ้มพิธาได้รับการพัฒนาและเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ภายใต้การนำของท่าน องค์กรได้สร้างนวัตกรรมและโครงการที่สำคัญที่ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ทำให้องค์กรเป็นที่ยอมรับในวงกว้างและสร้างความสร้างสรรค์ในทีมงาน

บทเรียนความเป็นผู้นำ

นันทนา จวก ไดโนเสาร์ตกเลข เตะตัดขาพิธา ชี้สังคมหงุดหงิดนักร้อง ซ้ำไม่อิน รบ.แห่งชาติ | MATICHON ONLINE | LINE TODAY

จากประสบการณ์ของ รศ.ดร.นันทนา เราสามารถเรียนรู้บางสิ่งที่มีความสำคัญในการเป็นผู้นำได้ อย่างเช่น การเอาใจใส่ในผู้ในทีม การสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ การใช้การสื่อสารที่ดี เป็นต้น ผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะในการเป็นผู้นำควรที่จะใช้คำแนะนำเหล่านี้ในการพัฒนาตนเอง

อนาคตของความเป็นผู้นำ

สถานการณ์และแนวโน้มในการเป็นผู้นำจะเปลี่ยนไปตามการเปลี่ยนแปลงในสังคมและองค์กร ผู้นำควรเตรียมตัวให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การพัฒนาตนเองและการเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้นำสามารถรับมือกับสถานการณ์ใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทสรุป

อ.นันทนาชี้ ผู้นำของไทยต่างกันลิบ คนหนึ่งก้าวไกลฉับไว อีกคนติดอยู่ในกะลาแลนด์ : Matichon TV - YouTube

การมีผู้นำที่มีความสามารถและประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญในการเป็นเครื่องเรือนสู่ความสำเร็จขององค์กรและทีมงาน รศ.ดร.นันทนาเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่ผู้อื่นที่ต้องการพัฒนาทักษะในการเป็นผู้นำ การสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ในทีมงานเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ อนาคตของผู้นำจะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์และแนวโน้มใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ดังนั้น การพัฒนาทักษะและการเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้นำควรใส่ใจเพื่อที่จะเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพในอนาคต

สัมภาษณ์:รศ.ดร.นันทนา:ประชาชนโอบอุ้มพิธาเป็นนายกฯ 8ปีไม่เคยเจอผู้นำที่ดี [VIDEO]

“สัมภาษณ์พิเศษ : รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง ม.เกริก ส่อง ผู้นำคนใหม่ของประชาชนคนไทย 8 ปีเราไม่เคยเจอผู้นำที่ดีพร้อมแบบพิธา ในกะลาแลนด์ ถ้ามีเกมการเมืองสกปรก เตะตัดขา ไม่ให้ พิธา เป็นนายกฯ ประชาชนไม่ยอมแน่นอน จะเกิดความเปลี่ยนแปลง

#matichontv #พิธาลิ้มเจริญรัตน์ #การสื่อสารการเมือง

สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ

/ @matichontv

Official Matichon TV

ติดตามข่าวสารได้ใน
Web : http://www.matichon.co.th/default.php
Facebook : https://www.facebook.com/ThePoliticsB…
Instagram : https://instagram.com/matichononline
Twitter : https://twitter.com/MatichonTV
Tiktok : https://www.tiktok.com/@matichontv”

เนื้อหาของวิดีโอ สัมภาษณ์:รศ.ดร.นันทนา:ประชาชนโอบอุ้มพิธาเป็นนายกฯ 8ปีไม่เคยเจอผู้นำที่ดี

สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ กลับเมื่อไหร่ อาจารย์น่าจะได้ฟังผมไปแล้วบางส่วนนะครับอันนี้เป็นมุมมองของผม จะชวนอาจารย์มา มามาคุยมามองในมุม อาจารย์บ้าง อาจารย์คงได้ติดตามการเมืองอยู่นั่นแหละในศักยะ เราเห็น movement ขอบคุณพี่ทานะครับตั้งแต่ภายหลัง ผลการเลือกตั้งออกมา น่าสนใจเขาเลือกที่จะไป ไปเจอกับ ขึ้นหลังจากที่ที่เคลียร์เรื่องของการเมืองเสร็จนัดเคลียร์เรื่อง ของพรรคร่วมเสร็จ คุยกับพรรคร่วมอย่างฉันมิตร ก็เห็นเขาไปเจอเอกชนเห็นเขาไปเจอหน่วยงานรัฐอย่างอบตเมื่อวานนี้ นรก วันนี้ไปออกสื่ออย่างคุณสรยุทธ ด้วยท่าทีที่ กันแล้วก็พูดถึงเรื่องต่างๆนานาที่มันสะใจคน มองภาพของหนูเป็นคนมีฐานะ ที่เกิดขึ้นยังไงบ้าง สิ่งที่คุณพิชาทำเนี่ยนะคะ มันทำให้สังคมไทยเนี่ยชอบไปเลย เพราะอะไร เพราะว่าเราเคยเจอแต่ผู้นำที่ขี้เกียจ เฉื่อยชาทำงานแบบหลังม่านมุกนิดซุบซิบกันแล้วทำอะไรเนี่ยก็คือ ประชาชนเนี่ยไม่ได้รับรู้ แต่ว่าคุณผู้ชายเนี่ย เขาก็จะเป็นคนที่แบบ ชัดเจนแล้วก็แสดงออก ซึ่งตรงนี้ ความขยันของเขาเนี่ยมันทำ เขาเรียกว่าการทำงานเชิงรุกนะคะ แต่คนก็ไปมองว่าเขาเนี่ยเอาไซส์ใช่ไหม สิ่งที่คุณพิชาแล้วก็พักอ้าวใครทำเนี่ย ถามว่าประชาชนเสียหายตรงไหน ไม่ได้เสียหายอะไรเลย ประชาชนได้ประโยชน์มากมาย เพราะว่าเขาทำงานก่อนที่ประชาชนจะร้องขอ ทำไมเวลาที่ตอนหาเสียงเนี่ยรู้จักวิ่งไปหาไปขอคะแนนเขา เหนื่อยแค่ไหนร้อนแค่ไหนไกลแค่ไหน รู้จักไปขอคะแนนเขา ถ้าเขาเลือกมา ให้คะแนนมาเพื่อที่จะมาทำงาน แล้วหยุดไม่ทำหรอ แต่ว่าวิชากับก้าวไกลเนี่ยเขา รู้ว่าสิ่งเหล่านี้ ประชาชนให้ฉันทามติ เขาก็เริ่มต้นทำงานทันทีไม่ต้องรอให้ใครมารับรอง แต่เสียงของประชาชนรับรองเขาโดยปริยายไปแล้ว เราลองเปรียบเทียบดูนะคะว่าก่อนเลือกตั้งเนี่ยเราเห็นลุงตู่ ลงพื้นที่ไปหาเสียงแต่ก็อ้างว่าไปตรวจราชการ เสร็จเรียบร้อยหลังเลือกตั้งมา 3 สัปดาห์ ไม่ไปตรวจราชการแล้วหรอคะ มันเห็นได้ชัดนะว่าตอนนี้จะไปเอาคะแนนเสียงเขาเนี่ย โอ๊ยก็แบบไปได้เหนื่อยแค่ไหนก็ไป แต่พอเลือกตั้งเสร็จไม่กลับไปแล้วไม่ลงพื้นที่ ไม่ให้ประชาชนเนี่ยได้พบปะอีกแล้ว ซึ่งอันนี้เนี่ยมันเป็นเรื่องที่ ทำให้ประชาชนก็เห็นความแตกต่าง ก่อนเลือกตั้ง แบบไปหาจังเลยวันหลังเลือกตั้งก็หายไปเลย ซึ่งตรงข้ามกับวิชาแล้วก็ทีมก้าวไกล หลังเลือกตั้งแล้วทำงานเถอะ มันเป็นสิ่งที่ประชาชนเนี่ย รู้สึกว่า เออมันคุ้มค่ากับการที่เลือกมานะ ซึ่งตรงข้ามกับ บรรดาลุงๆทั้งหลายเนี่ย นอกจากจะไม่ได้ทำงานต่อ ไม่ไปพบปะประชาชนอีกแล้วหลังเลือกตั้งคนรู้ว่าแพ้ ก็ยังปฏิเสธที่จะส่งมอบ งานให้กับคนที่เขาชนะและช่าง ไม่มีอะไรเลย อันนี้น่ะการที่คุณวิชาและก้าวก่ายเริ่มทำงาน ด้านหนึ่งมันก็จะฟิต คนรุ่นใหม่ ทำงานเร็วไม่เชื่องช้า ไม่ใช่ประเภทที่แบบต้องรอให้รับรายงานก่อนคุ้นๆใช่ไหมนายกของเรา ยังไม่ได้รับรายงานถ้าไม่มีรายงานไม่ทำงาน แต่อันนี้เขาทำก่อน แล้วก็ การที่เขาทำงานตามที่ประชาชนมอบหมายมา มันก็เหมือนกับหลังพี่ไป เพราะว่าเขาได้รับเลือกตั้งไหม เขาทำงานให้ประชาชนใครที่มาค่ะ มันก็จะประชาชนก็จะมองเห็นนะ แล้วมันก็เป็นเหมือนกับ ให้กับพรรคก้าวไกลไปโดยปริยาย ว่าต่อไปนี้ใครจะมาทำอะไรพักที่ประชาชน เลือกมา มันก็เป็นสิ่งที่ประชาชนเขาจะ ไม่ยอม เขาจะไม่ทน แล้วยิ่งการที่ คุณพี่ทาแล้วก็ทีมก้าวก่ายเนี่ย เดินสายไปพบกับองค์กรต่างๆเนี่ย ต้องบอกว่ามันเป็นมิติใหม่นะ มันเป็นมิติใหม่สำหรับประเทศไทย แต่สำหรับประเทศตะวันตกได้มันไม่ใหม่เลยเขาเรียกว่า เรื่องของการเปลี่ยนผ่าน อำนาจ เป็น ทรานซิชั่น premiere Pro ซึ่ง ใครที่ชนะเลือกตั้งเนี่ยเขาก็จะต้องไป เตรียมพร้อม สำหรับการเข้าสู่ตำแหน่ง โดยการไปดูว่าของเธอเนี่ยทำอะไรมาแล้ว แล้วเขาจะไปทำต่อได้อย่างไร ส่วนองค์กรต่างๆเนี่ย พี่กุลพี่ทาเขาเดินทางไปพบเนี่ย เขาก็ไปซาวเสียงไปฟังว่า เขาจะใช้นโยบายที่เสนอกับประชาชนไปตอน บรรดาองค์กรสถาบันต่างๆเหล่านี้ เขารับรู้แล้วเขาโอเคไหม เขามีปัญหาอะไรไหมแล้วเขาจะช่วยสนับสนุน ซึ่งอันนี้มันเป็นมิติใหม่สำหรับประเทศไทย พี่จะทำให้ การเดินหน้าการบริหาร ประเทศไหนเนี่ย มันไม่สะดุด ไม่ใช่เพราะเปลี่ยนผ่านอำนาจปั๊บเนี่ยก็เริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ เพราะว่า ก่อนหน้านี้ไม่ได้เตรียม พร้อมอะไหล่ แต่อันนี้มันเป็นการ เตรียมพร้อม สำหรับประเทศที่เขาเจริญแล้วประเทศทางตะวันตกเนี่ย เขาก็ทำกันแบบนี้ แต่ของประเทศไทยแล้วเนี่ย เรามีผู้นำที่ไม่ค่อยมีความรู้ไง ไม่มีวิสัยทัศน์อยู่ในกะลาแลนด์ ก็เลยบอก อันนี้ทำเอาไซส์นะ ไม่ควรจะทำ เพราะว่าทำไมฉันยังไม่ทำเลยคืนล้ำหน้าฉันไป แตกประชาชนไม่ได้มองอย่างนั้นแน่นอนนะคะ ประชาชนมองว่ารัฐบาลของ ฉับไว 9 กล่องแล้วก็ทันสมัย น้าเราไม่เฉื่อยชาแล้วทำงานไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย แล้วลองคิดดูนะคะว่า การที่รัฐบาลทำงานช้าไปวันนึง ประชาชน ประโยชน์มากแค่ไหน คิดง่ายๆ ถ้าเผื่อว่าลดค่าไฟฟ้าให้เขาวันนี้เนี่ย ชีวิตเขาเนี่ย เขาก็สามารถที่จะอยู่ต่อไปได้แบบ ไม่รัน กับค่าครองชีพ บันดาล งอนอุตสาหกรรมต่างๆที่เขาได้ลดค่าไฟฟ้าเนี่ย เขาก็สามารถที่จะไปลดต้นทุนการผลิตแล้วก็เป็นลดค่าสินค้าให้ประชาชนได้ 1 วันที่ มัน หลังประชาชนเป็นมากมาย สิ่งที่ คุณพิธาแล้วก็พรรคก้าวไกล อันเนี้ย มันน่าจะเป็น มาตรฐานใหม่ สำหรับบรรดาผู้นำทั้งหลาย ได้รับเลือกตั้งแล้วขี้เกียจไม่ได้นะคะ จะรอแต่รับรายงานไม่ได้แล้ว นะ แล้วการที่คุณ นิทาน ทำตัวให้เป็น เหมือนกับคนธรรมดา การที่เขาไปออก สื่อกับคนอายุเนี่ย มันก็ดูเป็นเรื่องอะไรที่แบบ ดู ดูหุ่น เพราะว่า คุณสรยุทธก็เป็นสื่อที่ประชาชนรัก คุณพิชาก็เป็นนักการเมืองที่ประชาชนชอบ แล้วมาเจอกัน ได้ทำอะไรที่มันเหมือนแบบชาวบ้านก็ทำ ธรรมดาธรรมดา ไม่ได้แบบใส่สูทผูกไทด์ หรือว่ามายืนเป็นเจ้านายแล้วก็ทำว่าฉันเนี่ยเหนือกว่า ใครในโลกนี้ฉันจะไม่ทำอะไรที่เหมือนชาวบ้านเขา ที่เขามาเจอกันแล้วก็ทำอะไรที่ พี่รู้สึกว่ามันเป็นไลฟ์สไตล์ที่ง่ายๆ มันทำให้คนรู้สึกเข้าใจ แล้วจากนี้ไป กว่าเป็นนายกรัฐมนตรี มันไม่ได้อยู่บนหอคอยละ มันก็คืออยู่ กับประชาชน อยู่ในวิถีของประชาชน อันนี้เป็นวิธีการสื่อสารทางการเมือง ที่ทำให้ประชาชน มีความรู้สึกใกล้ชิดกับผู้นำ แล้วก็ ทำในสิ่งที่ประชาชนเขาคาดหวัง อันนี้ต้องถือว่าเป็นผู้นำในดวงใจเลย สิ่งที่เราเห็นจาก จากคุณพิธาโอเคอาจารย์แตะมาแล้วบางส่วนแต่ว่าเราจะเห็นว่า ส่วนหนึ่งที่คนรู้สึกได้และอาจจะทำให้เป็นมาตรฐานใหม่หรือเปล่าไม่แน่ใจหรืออาจจะเป็นบุคลิกส่วนตัวคือ เป็นคนที่เข้าถึงง่าย เป็นคนที่อะไรก็ได้และคุยได้ทุกเรื่อง คุยได้ทุกประเด็นและคุยแบบรู้จริง สิ่งเหล่านี้อาจารย์มันจะเป็นประโยชน์ ต่อการสื่อสารทางการเมืองและสร้างประโยชน์ให้กับตัวคุณ และก้าวไปเอง ดู background ของ คุณพิชาเนี่ยได้รับการศึก ที่ดี น้ำมาจากสถาบันการศึกษา จบธรรมศาสตร์ เป็นรุ่นน้องของดิฉันนะคะก็ภูมิใจนะน้องได้หรือเปล่าไม่รู้ ก็ถือว่าจบสถาบันการศึกษา ที่ ทำให้เขาเนี่ย มีความรู้ แล้วเขาก็ไป จบต่างประเทศจบ ฮาเวิร์ด จบ M I T อันนี้ก็เป็น เขาเรียกว่าไอวี่ลีก เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ ของระดับโลก เขาได้หล่อหลอมเอาความรู้ ตรงนี้มา แล้วก็ อย่าง 5 บวชเนี่ยถ้าใครที่ไปเรียน Kennedy School ก็คือ ของเขาเนี่ย เขาก็จะมีหลักสูตรที่ สอนในเรื่องของความเป็นผู้นำ ภาวะผู้นำ คุณจะวางตัวอย่างไร เสื้อผ้าหน้าผมอย่างไร จะสื่อสารอย่างไรในภาวะวิกฤตจะสื่อสารอย่างไรในภาวะ จะสื่อสารอย่างไรตรงนี้เขาได้รับการหล่อหลอมมาจาก Background ที่ดีภูมิหลังของเขาเนี่ย ต้องถือว่า เป็นคนที่ได้ เรียนรู้สิ่งต่างๆมา แล้วก็ เวลาที่เขาเอามาใช้ เขาก็ได้ใช้วิชาความรู้ของ ในการซื้อ สารกับประชาชน เราจะสังเกตได้ว่าบุคลิก ไม่มากเกินไปแล้วก็ไม่น้อยเกินไป ไม่มากเกินไปเนี่ย เราก็จะดูได้จากผู้นำคนก่อนๆของเราเนี่ย เวลาดีใจก็เกินเหตุไป ปุ๊บปั๊บหร่วน เวลาโมโหโกรธก็ขึ้นสุดชีวิต เหวี่ยงใส่ชาวบ้านเขา อันนี้เราจะไม่ได้เห็นเลยนะกับคุณ คุณวิภาจะไม่ได้ อารมณ์ที่ พรุ่งพล่าน หรืออารมณ์ที่ดีใจ วันที่เขาชนะเลือกตั้ง สิ่งที่เขาทำก็คือ เขาเรียกว่า ยิ้มแบบ เบิกบาน มีความสุข แค่นั้น ไม่ได้แสดงอาการล้นออกมา แล้ววันที่เขาถูกท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นนักร้องหรือว่าบรรดาใครต่างๆที่ที่มาท้าทายเขาเนี่ย เขาก็ไม่ได้หลุด เขาก็ไม่ได้เกลียด เขาก็ไม่ได้ฟ้า มันเป็นคุณลักษณะของผู้นำ ในการสื่อสารทางการเมือง คนเป็นผู้นำ มันจะถูกจับตาอยู่ตลอดเวลา ต้องมีวุฒิภาวะ รู้ว่าเวลานี้จะแสดงอารมณ์ขนาดไหน ถ้าเผื่อว่าอยู่ในอารมณ์ที่ ชนะเลือกตั้ง คุณก็จะมาบูดมาอะไรก็ไม่ได้ แต่คุณดีใจจนเกินเหตุ จนกลายเป็นเหมือนกับ ทุกสิ่งในโลกนี้เนี่ยอยู่ที่ฉันคนเดียวฉันเป็นศูนย์กลางของจักรวาลอันนี้ก็ไม่ได้ เขาก็จะทำ ไม่มากเกินไป แล้วก็ ไม่น้อยเกินไป ทุกครั้งที่เขา มีการเตรียมพร้อมอย่างดี เราจะได้เห็นวรรคทองของ คุณพี่ทาในทุกๆการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นอภิปรายในสภาหรือว่า ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ทั้งไทยและก็ต่างกัน ก็พูดแบบกระชับ ตรงประเด็น ไม่เพ้อเจ้อไม่เลอะเทอะ ไม่เรียกว่า บางคนก็พูดเยอะมากจนกระทั่งสื่อเดินไปแล้วอย่าพูดไม่จบอะไรประมาณเนี้ย แล้วทุกคำที่พูด โค้ดไปออกสื่อได้หมดเลย นั่นแปลว่าอะไรทุกคำมีความหมาย นั่นคือนั่นคือการซื้อ ของผู้นำ ที่ดี แล้วเราก็รู้สึก ปีที่ผ่านมาเราไม่เจอผู้นำแบบนี้ เรามาจากประชาชนก็ตะลึงตึงตึง ถามจริงๆแล้วชอบไหม นี่คือภาวะผู้นำที่โดดเด่น แล้วก็เป็นการ ผู้นำที่ดี ประชาชน ศรัทธาแล้วชื่น ด้วยการสื่อ จับซึ่งส่วนนี้ที่ประกอบกันทั้งสองด้านนะทั้งการสื่อสารทางการเมืองและบุคลิกลักษณะ ต่างๆความรู้ต่างๆที่มันประกอบกันเข้าเนี่ย อาจารย์มองว่าในท้ายที่สุดในอนาคตต่อไปมันจะกลายเป็น เกราะป้องกันตัวคุณพิธาอนาคตใหม่ในกรณีไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามในด้านที่ไม่ดีหรอก การที่คุณวิชาได้รับการ อุ้มจาก ประชาชนนะคะ เขาได้รับ เสียงสนับสนุนมาเนี่ย ก็ชัดเจนนะคะ 14 ล้านกว่าเสียงที่เลือกก้าวไกล นั่นมันก็สะท้อนละว่าประชาชนนะเนี่ย เขาเชื่อ เชื่อในตัวคุณวิชาแล้วก็เชื่อในพรรคก้าวไกล แล้วสิ่งที่ เป็นตัวคุณพิธานเนี่ย มันไม่ใช่แค่พิธา Only มันเป็น อาชีพของก้าวไกลด้วย เราต้องให้เครดิต ในช่วงของการรณรงค์ 14 ล้านเสียงนะมันไม่ได้มาเพราะว่าพี่ทาคนเดียว แต่มันเป็นภาพรวมของความเป็นก้าวไกล งั้นสิ่งที่เขาสื่อสารออกไปจากนี้ มันเป็น ภาวะผู้นำที่ที่ ทำให้ตัวเขาโดดเด่น ในขณะเดียวกันคนในพรรคเขาเองเนี่ย เขาก็มีศักยภาพในการซื้อ สื่อสารที่ดี เราไปดูได้เลยในช่วงเวลา เราจะได้เห็น ศักยภาพของคนในพรรคก้าวไกล อายุน้อย แต่ว่า เวลาที่สื่อสารออกไปแล้วเนี่ย Touch แล้วก็ สามารถที่จะ ควบคุม อารมณ์ได้ มีวุฒิภาวะมากกว่า พวกชราภาพหลายคน แล้วที่สำคัญก็คือ แหลมคมมีไหวพริบปฏิภาณ สามารถที่จะตอบโต้ได้เอาแล้วคนฟังแล้วนี่หว่า รู้สึกว่ามันคม แล้วมีความรู้สึกว่าเออเนี่ย ถ้าเขาได้คนที่ ผู้แทนแบบนี้ ขึ้นมาเป็นผู้บริหาร มันก็จะเป็นสิ่งที่ดี การที่คุณพิชา แล้วพรรคก้าวไกล ได้รับเลือกตั้งมาขณะนี้ จากฝีมือการสื่อสารของเขาจากจุดยืนอุดมการณ์ และจากนโยบาย มันจะทำให้หลังก็กินอยู่กับประชาชน ประชาชนจะสนับสนุน แล้วก็จะ กุ้งขาว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ประชาชนก็จะคิดว่าพรรคก้าวไกลเป็นของฉัน เป็นสมบัติของฉันฉันต้องดูแลรักษา ใครมารังแกตอนนี้ภาวะการที่คุณพิชาท กระทำอยู่ ประชาชนทั่วไปเขาตีความว่าเป็นการรังแก แล้วเขาจะไม่ทน อันนี้มันเป็นกล่อง แต่ที่ สรุปบทเรียนมากไปกว่านั้น บรรดาพรรคการเมืองทั้งหลาย ต้องบอกนะคะว่า มันจะเป็นมาตรฐานใหม่ของผู้นำพรรคการเมือง ถ้าเผื่อว่า ผู้นำพรรคการเมือง คุณสมบัติต่าง มันจะต้องพกเครื่องแบบ นี้ น้ำไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณวุฒิการศึกษา ศึกษา ความสามารถในการ สื่อสาร หนังการเมือง นะแล้วก็ ด้วย เรื่องของแนวคิดอุดมการณ์ ต่อจากนี้ไปเนี่ย พรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมาเนี่ยจะสับขึ้นมาสักแต่ตั้ง แล้วเดี๋ยวมันก็ หารเฉลี่ยกันแล้วปัดเศษแล้วก็คงได้มา อันนี้ ต้องคิดใหม่แล้วล่ะเพราะประชาชนเขาไม่ได้คิด เสร็จนิดนึงเขาก็มา เขาก็ไม่หลงไปเลือกให้ ถ้าคุณไม่มีแนวคิดอุดมการณ์ ถ้าคุณไม่มีบุคลิกผู้นำ ถ้าคุณสื่อสารทางการเมืองไม่เก่ง ไม่ดี นโยบายคุณไม่ชัด เขาไม่เอาแล้ว มันก็กลายเป็นมาตรฐานใหม่นะคะ ขอผู้นำทางการเมืองและพรรคการเมือง ที่ต่อไปนี้ จะต้อง ในเรื่องของแนวคิดอุดมการณ์การ ต้องเป๊ะ เป็นมาตรฐานใหม่แต่ระหว่างทางเนี่ยอย่างที่อาจารย์บอกมันจะมีอะไรต่างๆที่ คนอาจจะมองว่าเป็นการรังแกอันนั้นก็ว่ากันไปตามความคิดแต่ละคนแต่ก็อดถามไม่ได้เพราะว่า เราเห็นหลายเรื่องนะที่ตอนนี้มันเริ่มถูกชูขึ้นมา เพื่อมา มาตีก้าวก่ายเราเห็นเรื่องของกรณี รัฐบาล ชาติเราเห็นนม หุ้นสื่อ เราเห็นเรื่องของที่ถูกมองว่าถ้าเลือกก้าวก่ายคุณจะได้ฐานทัพอเมริกานะ แต่ถ้าคุณเลือกก้าวไกล คุณ เป็นเหมือนยูเครนนะ ประเด็นเหล่านี้ที่ นักร้องหรือว่านักกฎหมายหรืออะไรคุณ พูดเรื่องนี้ขึ้นมา มันจะมีผลมากน้อยขนาดไหนกลับ กลับตัวกลับใจ มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายต่อประชาคมโลกเป็นอย่างยิ่งเลยนะคะ ที่ประเทศไทยเนี่ย มีคนแบบนี้ เพราะเรากำลังจะมีนายกรัฐมนตรีที่มีคุณสมบัติพร้อม สามารถจะไปยืนบนเวทีโลกได้ทัดเทียมกับผู้นำรุ่นใหม่ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษริชชี่สุนัขแล้วก็ ฝรั่งเศสมาคลองเนี่ย แล้วเรา เราก็ยังมีไดโนเสาร์ประเภทที่แบบ พยายามมาสกัดมาเตะตัดขา ทุกคนเขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่เขาจะรู้ ศึกษาพิกุล เขาก็รู้ว่าอันเนี้ย มันเป็นเกมในการที่จะสกัด ไม่ให้คุณวิชาและก้าวไกลเนี่ย ขึ้นบริหาร ประเทศ ตอนนี้อารมณ์ผู้คนใน สังคมเริ่มรู้สึก พวกนักร้อง ก็พวกสลิ่มโบราณ ที่ออกมาพยายามจะปั่น สกัดวิชา มันเป็นอาการของคนที่ ไม่ได้มีจิตวิญญาณแบบประชาธิปไตย แล้วที่สำคัญก็คือว่าสอบตกคณิต เพราะอะไร เนี่ยตอนเที่ยงไม่ได้เลยนะว่าคน 20 6 ล้านเสียงที่เขาเลือกฝ่าย เสรีนิยมเข้ามาเนี่ย กลับ 7 ล้านเสียงที่เลือกฝ่ายอนุรักษ์เนี่ย ยังไม่รู้เลยว่าเลขไหนมันมากกว่าเลขไหน แล้วก็พยายามที่จะดันทุรัง เสนออะไรต่ออะไรที่มัน ไม่สมเหตุสมผลขึ้นมา ประเดิมเลยนะคะที่เคยเสนอนะคะว่าลุงทั้งหลายเนี่ยกลับไปเลี้ยงหลาน แต่หลังจากที่ผลการเลือกตั้งออกมาเดี๋ยวฉันบอกว่าอย่าไปเลี้ยงหลานเลย เพราะว่าเด็กจะเติบโตมาท่ามกลางความคิดที่แบบ อ่อนโยนไปเรื่อยๆสติปัญญาอ่อนโยนไปเรื่อยๆ เลข 26 ล้านเนี่ยนะกับไอ้ 7 ล้านยังไม่รู้เลยว่าอันไหนมากกว่ากัน แล้วก็พยายาม ที่จะสกัดไม่ให้ไอ้ 26 ล้านให้มันขึ้นมาเป็น ตรงนี้อันตราย อันตรายเพราะอะไร เพราะว่าไม่รู้จักคำว่าแพ้ไม่รู้จักค่ะ ไม่รู้จัก ไอ้ข้อเสนอที่แบบ เขาเรียกว่าข้อเสนอปลัดมหัศจรรย์ ที่บอกว่า อย่าให้มี จะให้มีรัฐบาลแห่งชาติ อันนี้ อันนี้เนี่ยนะคะ โกหกกลายเป็นข่าวแล้วดิฉันเองก็ ให้สัมภาษณ์เรื่องเยอะมาก ต้องบอกว่า สังคมในอย่าไปให้ราคากับสิ่งที่สวจเด็จอินสว่าง เขาเสนอมา เพราะว่า แบบนี้เนี่ยมันเป็นการ โยนหินถาม เพื่อที่จะตรวจสอบสังคมเองเนี่ย ยอมรับไหมมีปฏิกิริยายังไงกับคนที่ ออกมา พูดเรื่องนี้ สังคมตอบรับก็ส่งรูปต่อไปให้คุณวิษณุเนติบริกรของเราแล้วก็ ทำเรื่องให้ให้มันเกิดว่าลุงกระแส สามารถเข้ามาร่วมรัฐบาลได้ แต่ถ้าสมมุติมันแปลก เดี๋ยวก็หาแนวทางอื่นมายื้อกันไป ก็กะว่าจะไม่ให้ ก้าวไกลได้ขึ้นมาเป็นรัฐบาลอะไรประมาณนี้ รัฐบาลแห่งชาตินี้ก็บอกว่า มันเป็นแนวคิดที่ พรรคการเมืองทุกพรรคร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ไม่มีฝ่ายค้าน มันเป็นสิ่งที่ดีผลิตในระบอบประชาธิปไตย รัฐบาลที่ไม่มีฝ่ายค้าน มีอยู่กับเพศเดียวคือรัฐบาล ในเมื่อไหร่ที่คุณคิดว่ารัฐบาลแห่งชาตินั่น แปลว่า ประเทศชาติไปถึงมุมที่ ที่สุดละ มัน เกิดข้อขัดแย้งจนไปต่อไม่ได้ รัฐบาลบริหารประเทศแล้วไม่มีใครเชื่อถือกำลังจะเป็นรัฐล้มเหลวหรือ failed State เราก็ต้องมาช่วยกันกอบกู้ประเทศอะไรแบบเนี้ย แล้วถามว่า แท้จริงแล้วเนี่ย ประเทศไทยอยู่ในภาวะอย่างนั้น นะ แล้วผลการเลือกตั้งไม่ได้จั้มถึงเลยนะ ชนะขาดลอย 26 เก็บร้านเนี่ย มันขาดแล้ว 3 เท่าตัวกว่าเนี้ย แล้วทำไมถึงจะต้องมาเสนอไอ้แนวคิดที่มันวิปริตแบบนี้ พี่จะบอกว่าจะต้องเปิดร่วมกัน จัดตั้ง รัฐบาล อันนี้เนี่ยนะต้องบอกว่าผลการเลือกตั้ง มันเปลี่ยนประเทศไทยแบบ ชนิด พลิกฟ้าคว่ำ เพราะอะไร มันไม่ใช่คน อยู่ในข้างเสรีนิยมแล้วเลือกกันเอง แต่มันเป็นข้างที่อยู่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมแล้วข้ามฟากมา ไปดูผลการเลือกตั้งปี 2506 ทับทิมกลุ่มรัฐบาลเดิม ไม่ว่าจะเป็นพลังประชารัฐ เป็นแกนนำ ภูมิใจไทย ชาคริต ตัดอะไรต่ออะไรเนี่ย รวมกันได้ประมาณ 16.7 ล้านเสียง แล้วครั้งนี้เหลือ 7 ล้าน มันหายไปไหน แปลว่า กลุ่มนี้เขากระโดดมาข้างเสรีนิยม เขาบอกว่าบ๊ายบายลุง เขาอยู่กับลูกไม่ไหวแล้ว 8 ปีมันไม่มีอะไร ชีวิตเขามีแต่จมลงประเทศก็ถอยลงไปเรื่อยๆ เขาก็ตัดสินใจ โอกาสเลือกตั้งเนี่ย ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งกฎหมายประชาชนได้อำนาจในการเลือกผู้นำ หรือว่าเขาเห็นว่าผู้นำชุดเดิม ไปไม่รอด เขาก็เลือกชุดใหม่ อันนี้ก็เป็นหลักการง่ายๆเพียงแต่ว่าทหารไม่ต้องยื่นจมูกเข้ามา อาหารไม่เกี่ยว ประชาชนเลือกกันเองตัดสินใจกันเอง มันก็เป็นสิ่งที่ประชาชนเลือกและ แล้วก็ตัดสินใจเลือก เรียกว่า เลือกแบบแรงสไลด์ให้ข้างเสรีนิยมไปแล้ว อีกข้างหนึ่งมาอาลัยอาวรณ์เมื่อฉันก็ ฉันก็อยากเป็นรัฐบาลเสนอนู่นฉันเดินที่เสนอนั่น ก็อยากไปให้ล่ะค่ะ ว่าจะให้หลักฐานแล้วเนี่ย ประชาชนก็จะรู้สึก แล้วมาถามทำไม ตลอดเวลา ไอ้เรื่องเหล่านี้มันเป็นเรื่องวิปริตผิดปกติ แล้วมันก็ไม่เคยจริงๆแล้วมันก็จะไม่เกิดขึ้นในขณะ เราก็อย่าไปสนับสนุน OK แต่พี่ต้องถามอาจารย์นะในกรณีสมมุติสมมุติเป็นกรณีสมมุติชมนะ ที่ว่าอำนาจเก่าเขา ล้มคุณพี่ทาได้และก้าวก่ายได้ผ่านกลไกอะไรก็ตามที่เขามีอยู่ แต่ขณะเดียวกันนะแต่ในเวลาเดียวกัน ณเวลานั้นเนี่ย คุณพิธากลายเป็นนายก และรัฐบาลในหัวใจประชาชน จำนวนมากไปแล้วเรียบร้อย ทั้งๆที่อาจจะยังไม่ได้รับตำแหน่งจริงก็ได้ อาจารย์คิดว่า ทั้ง 2 ทีมออดิโอเนี่ยมันเกิดขึ้นพร้อมกัน ประเทศไทยจะเป็น หมายถึงว่า คุณพิชา กลับไม่ ไม่ได้มีโอกาสไป ถึง นายก แต่คนน่ะ ในเวลาเดียวกันด้วยนะเวลาใกล้เคียงกัน มีคนเอาแล้วอ่ะแต่ว่าคุณไปตัดสินเขาอ่ะชอบประเทศไทยจะเป็นไง สมมุติว่าชอบคำของคุณไพศาลนะคะที่ใช้คำว่าไสยศาสตร์ กฎหมายเนี่ย นะ มันก็เป็นอะไรที่ เหมือนกับอีดำมืด แล้วอยู่ๆแล้วมันก็เสร็จให้คนเนี้ย อาการเป็นปีศาจ กลายเป็นคนผิดได้ชั่วข้ามคืนอะไรประมาณ ซึ่งไอ้ความวิปริตผิดปกติอันเนี้ย มันเกิดขึ้นมา จากตัวโครงสร้างของ ประเทศไทย โครงสร้างใหญ่ รัฐธรรมนูญฉบับ บทบัญญัติ บทเฉพาะกาล รวมทั้งบทบัญญัติอื่นๆที่มันค่อนข้าง คนพิการ มันก็เลยทำให้ วันนี้เรามาถึงจุดที่มันไม่ควรจะ เกิดขึ้น มันไม่ควรจะเกิดขึ้น ถ้าเราไม่มีรัฐธรรมนูญพิกลพิการแบบ มันไม่จำเป็นที่จะต้องไปรอให้สวมาเลือก มาโหวตเลือกนายกเพราะประชาชนเขาเลือกแล้ว แล้วสวผู้นี้มาจากไหน เขาไม่ได้มาจากประชา แต่ประชาชนเลือกแล้วยังต้องให้สว มาร่วม เลือกอีก มันก็เกิด ความอำนาจซ้อนอำนาจ มันก็ทำให้ คนที่ประชาชนตัดสินใจเลือกแล้ว แล้วตัดสินใจเนี่ยไม่ใช่ตัดสินใจแบบก้ำกึ่ง ตัดสินใจแบบชัดเจน เอาชนะแบบ ถล่มทลายไปแล้วเนี่ย มันกลับมาต้องเจอไอ้รอแฟน หรือไอ้ไสยศาสตร์มนต์ดำทางด้าน ที่มันก็มีโอกาสที่จะเกิด แล้วก็มีโอกาสที่จะใช้ กฎหมายเหล่านี้เนี่ย มาเล่นงาน พี่ มีมุมมองที่แตกต่างหรือไม่ใช่พี่ตาจะเป็นคนสุด สุดท้ายที่จะเจอแบบ ถ้าเรายังไม่แก้ไอตัวโครงสร้างหรือ กวดวิชา ไม่ใช่ สุดท้ายก็จะมีเหยื่อต่อไป ที่นี่ถามว่า ถ้ามันเกิดขึ้นมาจริงๆ แล้วคนก็ มีความรู้สึกว่าเขาเลือกแล้วแต่มันก็มีอำนาจซ้อน ที่มันสามารถที่จะทำให้คุณวิชาญนะเนี่ย ไม่สามารถที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ ก็ต้องถามว่า ประชาชน เขาจะ รับไหว เขาจะทนได้ อันเนี้ย เขาเองเขา การเลือกตั้งครั้งนี้เรียนไทยคำว่าปฏิวัติโดยประชา แบบสงบ เรียบร้อย กไก่เป็นก้าวไกล เพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล อันนี้ก็เป็นการปฏิวัติโดยประชาชนแบบสงบ เรียบร้อย ไม่ได้มีลักษณะของการที่ใช้กำลังใช้อำนาจ แต่เขาก็เขาก็แสดงฉันทามติ เจตนาของเขาคืออย่างนี้ แล้วก็มีคนกลุ่มนึงกลุ่ม ที่พยายามจะใช้ ข้ออ้างทางกฎหมาย บิดเบี้ยว ซึ่ง คำว่าดุลย์พินิจ มันสามารถที่จะ พี่นิดไปทางไหน ได้ฉันใด ทำไมไม่เอาดุลพินิจเนี่ย มากห้ามความคิดของประชาชน มาข้าง ส่วนใหญ่ของคน ประเทศลาว ถ้าศาลจะใช้ดู ดุลพินิจอันเนี้ย มันควรจะเป็นดุลพินิจ ตามระบอบประชาธิปไตยทุกคืนดุลพินิจที่อิงกับ เสียงของประชาชน ถ้าครั้งนี้เนี่ย กระบวนการไสยศาสตร์มนต์ดำทางกฎหมายเนี่ย มันทำให้คุณพิธาต้องมีอันเป็นไปแล้วไม่ไป ถึงเป็นนายกรัฐมนตรี คิดว่าประชาชน เขาก็จะหมดความอด แล้ว สิ่งที่มันไม่อาจจะเกิด เราอาจจะคาดไม่ได้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ตรงนั้นเนี่ย มันก็จะเกิดการ ไม่ยอมรับ แล้วก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ ไร้รูปแบบ ไม่ได้เป็นไปตามกระบวน คงจะต้อง ให้หลายๆฝ่าย ช่วยกันตระหนักตรงนี้ว่า อย่างน้อยที่สุด มันมีนิดเดียว มันก็ต้องมีละ แล้วนะ ส่วนการทางรัฐศาสตร์ ตอนนี้ประชาชน เขาได้แสดงออก ท่านผู้พิพากษาอะไรต่างๆเนี่ย ท่านใช้ดุลพินิจของท่าน ในการที่จะตีความกฎหมาย แล้วดุลพินิจอันนั้นเนี่ย มัน อยู่ข้าง เสียงข้างมากของ ประชาชนด้วย มันก็จะทำให้ประเทศเดินไปอย่าง เรียบร้อย แล้วเราก็จะได้พัฒนาซะที จะแปะปีที่หายไปแล้วเราไม่ เกิดการพัฒนา ช่วงนี้ก็ต้องวิ่งบอล ท่านผู้ที่ 2 อำนาจในการที่จะใช้ดุลพินิจ ในการที่จะ ตีความข้อกฎหมายแต่ง เราก็ได้เห็นแล้วว่า ศาลแต่ละศาลเนี่ย ดุลพินิจเนี่ยแตะ แต่ถ้าใช้ดุลพินิจเข้ามา แล้วก็เห็นหัวของประชาชน เรียงเข้ามา ในทิศทางที่ประชา เขาได้แสดงเจตนารมณ์แล้ว ตรงเนี้ยประเทศชาติของเราเนี่ย ก็จะไปในทิศทางที่ ประชาชนและองค์กรต่างๆอพยพทั้งหมดเนี่ย เห็นพ้องต้องกันแล้วประเทศชาติเดินไปข้างหน้า เราอยากเห็นประเทศพัฒนา ประเทศพัฒนา มันก็จะมีสิ่งที่ เป็นประโยชน์กับประชาชน น้าก็ต้องต้องฝาก บรรดาผู้ที่ อาจจะเกี่ยวข้องแล้วก็ มีอำนาจในการใช้ดุลพินิจ อย่าให้หลายคนได้ฟัง สิ่งที่ฉันพูดวันนี้ได้กลับ ผมผมทิ้งท้าย 2 ประเด็นแล้วกัน เรื่องแรกเรื่องแรกถ้า คือตอนนี้ สังคมหรือว่าการเมืองเรา ใหญ่ๆมันออกไป 2 ขวดนะคือกลุ่มอำนาจเก่า คนที่อาจจะมองเป็นกลุ่มรัฐบาลเวลา Kapook อำนาจใหม่ที่กำลังจะก้าวขึ้นมามีบทบาท คือที่เป็น มาที่พักร่มเวลานี้ เอากลุ่มแรกก่อน อาจารย์ถ้ำมองเข้าไปใน กลุ่มที่เป็น หลายคนอาจจะใช้อนุมัติข้อความอนุรักษ์นิยม อาจารย์อยากจะ พูดอะไรกับเขาหรืออยากจะแนะนำอะไรกับเขาไหม หลังจากที่ผลการเลือกตั้งมันออกมาเป็นแบบนี้ ถ้าสมมุติว่า เราลงสมัครรับเลือกตั้งแล้วเราแพ้เลือกตั้ง ในกลไกระบอบประชาธิปไตย มันไม่มีใครแพ้ตลอดกาลแล้วก็ไม่มีใครชนะตลอด สิ่งที่ ผู้แพ้จะต้องกลับมา กลับมามองตัวเองกลับมาถอดหมด เกิดอะไรขึ้น ทำไมประชาชนเนี่ยเคย เลือกเรา ถึง 10 6 ล้านเสียง แล้ววันนี้มันเหลือ เก็บร้านเสียง ต้องมาถอดบทเรียนแล้วล่ะค่ะว่า มันเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่า บรรดาลูกๆทั้งหลายอย่างงงๆอยู่นะว่าเราแพ้ได้ยังไงเพราะว่าประชาชนรักเรา เพราะว่าเขาไม่ได้อยู่ในช่วง Media เขาไม่รู้ What is Social Media เขาเขาก็เม้นกันยังไงนะแล้วก็พูดถึงลุงกันยังไง ลุงไม่รู้เพราะว่าลุงอยู่กับสื่อ แต่ว่าถึงวันนี้นาทีนี้เนี่ยก็ต้อง เปิดตาแล้วก็ยอมรับความจริงว่า สถานการณ์มันเปลี่ยน แล้วมัน เกิดปัจจัยอะไรที่ทำให้คนเนี่ย ย้ายข้าง คนไม่สนับสนุนเรา เราก็พยายามทำเต็มที่แล้วประชาชนก็เลือกเราเท่านี้ สรุปบทเรียนค่ะ แล้วถ้าเผื่อว่ายังคิดว่า ยังไม่พอ จะไปต่อในอำนาจ ครั้งหน้าค่ะ หล่อได้อีก ท่านยังทำยุทธศาสตร์ชาติ 20 เพราะฉะนั้น ฉันรอได้ค่ะ ท่านรอได้ท่านก็รออีก 4 ปี แล้วกลับมาใหม่ ให้ยิ่งใหญ่เลยสรุปบทเรียนแล้วประชาชนเขาชอบแบบนี้แล้วเราจะปรับตัวให้พักของเราเป็นแบบนี้ อีก 10 ตีกลับมาแล้วประชาชนเลือกท่านถล่มทลายท่านจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ฉันทำได้ แต่ไม่ใช่ใช้วิธีการในการ ให้คนออกมาเตะตัดขา ใช้กลวิธีต่างๆที่มันไม่เป็นไปตามกลไกประชารัฐ ซึ่งอันเนี้ย ถ้าท่านทำสำเร็จนะคะ มันก็จะกลายเป็นตราบาปของท่านตลอด ประชาชนจะไม่ให้เอา ตรงนี้ อยากจะบอก สรุปบทเรียน แล้วอีก 4 ปีท่านกลับมายิ่งใหญ่ได้ถ้าท่านยังคิดว่าท่านจะไปต่อ แต่ไม่ใช่ไปต่อ ด้วยวิธีการเอาสีข้างเข้าถูแล้วก็พยายาม ใช้วิธีการต่างๆ ในการที่จะ ทำให้ฝ่ายที่ประชาชนเขาเลือกมานะเนี่ย ตกจากตำแหน่ง โดยวิธีการที่มันอำมหิต โดยวิทย์ ใช้วิธีการ เลขอวดกรรมต่างๆ ทางกฎหมาย อันนี้ ประชาชนเขาจะไม่ยอมรับ แล้วมันก็จะกลายเป็น ตราบาปของท่านตลอดไปแล้วท่านจะกลับมาอีกไม่ได้เลย เล่นกันตามระบบ อย่าล้มโต๊ะ พอแพ้แล้วอย่าล้มโต๊ะ จะเป็นสิ่งที่จะฝากไปยัง กลุ่มอนุรักษ์นิยม ถ้า มองไปยังกลุ่มอำนาจใหม่ โฟกัส อย่างตัวคุณพิธาแล้วก็ตัวเขา พรรคก้าวไกล ถ้าให้อาจารย์เตือนหรืออาจารย์แนะนำ สักเรื่องหนึ่งอาจจะหลายเรื่องก็ได้อาจารย์อยากจะพูดอะไรกับเขาในเวลา หลายคนเนี่ยนะคะ พูดถึงเรื่องของคุณพิธาที่ถือหุ้นในทีวีอยู่ แล้วก็บอกว่า ทำไม คุณธนาธรในก็เป็นบทเรียนแล้ว ทำไมคุณพิชาถึงไม่ได้สรุปบทเรียนตรงนั้นแล้วก็ไม่ได้ดำเนินการจัดการเรื่อง หุ้นไอทีวี ให้ให้เสร็จสิ้นไป แต่ว่าดิฉันกลับมองอีกอย่างหนึ่ง คำว่า ไอ้ตรงนี้เนี่ย มันเป็นกระบวนการในการที่จะจ้องเอาผิด ถ้าเผื่อว่า คุณพี่ทานเนี่ย ไม่ได้ถือครองหุ้นตรงนี้ เขาก็จะหาวิธีการในการที่จะ มา ร้องเน้นเรื่องอื่นๆ แม้แต่เรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเช่น จบ 5 บทหรือฮอกวอตส์อะไรประมาณนี้นะ กลายเป็นเรื่องที่แบบขำขัน แต่ว่า มันก็เป็นประเด็นขึ้นมา หรือว่าการที่จะ ร้องว่าคุณพิชาเองนะเนี่ย มีแนวโน้มที่จะถูกครอบงำโดยตะวันตก หรือว่าคุณพิชาเองนะเนี่ย จะกลายเป็น อะไรประมาณนี้ เสื้อตัวนี้มันเป็นวิธีการในการที่จะเล่นงานคน กระบวนการ รายการที่มันไม่ถูก ก็ต้องบอกว่า วันนี้เนี่ยทางซี่ข้าง ของฝ่าย เสรีนิยมเนี่ย ต่อให้ ปกป้องตัวเองยังไง สุดท้ายถ้าเผื่อว่ามีคนจองกับ มันก็มันก็สามารถที่จะ ร้องได้ในประเด็น ตรงเนี้ย จึงคิดว่าสิ่งที่จะต้องทำ อย่างแรกเลยนะคะถ้าจะบอก กระซิบ ให้ก้าวไกล ดำเนินการอย่างแรกเลยก็คือจัดการกับรัฐธรรมนูญ ฉบับที่มันวิปริต ผิดปกตินี้ก่อน เพราะรัฐธรรมนูญนี้ล่ะค่ะ มันก็จะไม่ทำให้คุณพี่ทานเนี่ยไปถึงฝั่งฝันแล้วมันก็จะไม่ทำให้ คนต่อๆไปที่อยู่ในซี่ข้างเนี้ย สามารถไปต่อได้เพราะว่า มันเป็นกระบวนการที่ร่างขึ้นมา ดีไซน์มาเพื่อ ฝ่ายอำนาจนิยมโดยเฉพาะ เผื่อว่ายังปล่อยให้รัฐธรรมนูญ ที่เป็นกฎหมายสูงสุดเป็นการ์ตูน ติกาในการที่จะทำให้ ต่างคนต่างๆเนี่ย เข้าสู่อำนาจเข้าสู่ตำแหน่งได้ มันก็ยังเป็น เป็นผลไม้พิษ ที่มันจะส่งผล ร้ายแรงต่อคนอื่นๆต่อไป แล้วมันก็ไม่ใช่แค่บุคคลนะคะ เราลองนึกภาพดูว่า ประเทศชาติที่ได้ รัฐมนตรีหรือรัฐบาลที่ไม่มีคุณภาพ ประเทศก็ตกต่ำ ฉุดรั้งการพัฒนาไปเรื่อยๆ อันนี้มันส่งผลต่อประชาชน ไม่ใช่ส่งผลต่อตัวคุณพิชา เราอยากให้คุณพิชามาพัฒนาประเทศ แต่ว่ากระบวนการในการที่จะเล่นงานเขาเนี่ย มันทำให้ ประเทศชาติเนี่ยขาดผู้นำที่มีคุณภาพ แล้วในอนาคตไม่ออกเลยนะว่าประเทศไทยมันจะถอยหลังไปอีกแค่ไหน หลังจาก 9 ปีที่ผ่านมามัน ข่อยไปมากแล้ว สิ่งที่จะบอกกับก้าวไกลไม่ใช่สิ่งที่เป็นเรื่องข้อเตือนใจสำหรับก้าวไกล แต่ก็เตือนไปยังคนที่มันพยายามที่จะมาเตะ ก้าวก่าย แล้วก้าวก่าย เขาแสดงความกล้าหาญ ในการที่จะ ต่อสู้ มาจนถึงจุดนี้ ก็ให้กำลังใจเขา ให้เขาสู้ต่อ มันไม่มีอะไรที่เขาทำผิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของ คุณวิโรจน์ ที่ทำเรื่องสวยทางหลวง ยกนิ้วให้สิ เพราะว่านั่นคือความกล้าหาญ ใครบ้างที่จะ ใครกล้าทำแบบนี้ แล้วถ้าเผื่อก้าวไกลกล้า ประชาชนจะอยู่ข้างกายกัน งั้นไม่ต้องตรวจให้กำลังใจ แล้วสู้ต่อ โอเคผมขอนิดเดียวครับอาจารย์ที่ใช้จริง แล้วถ้ามองในภาพ ภาพใหญ่นะในฝั่งที่จะใช้คำว่าเสรีประชาธิปไตยเนี่ย เอาแหละ 2 พรรคใหญ่ในฝั่งนี้คือก้าวไกลกับเพื่อไทยที่ผ่านมาเราเห็นอาจจะมีข่าวมันเป็นระยะ ด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจที่เหลือจะมีคนปล่อยออกมาว่า ให้ 2 ลักษณะมองเห็นไม่ตรงกัน อาจารย์ในฐานะที่ตอนนี้ ทั้งสองทั้งสองภาพนี้เป็นภาพที่คนคาดหวังเยอะและเลือกประมาณ อาจารย์อยากจะมีอะไรบอกเธอ ร่วมรัฐบาลในเวลานี้ไหม จะเดินทางไปยังไง หลังจาก ผลการเลือกตั้งออกมานะคะ เราไม่ค่อยได้ยินคนพูดนะ ว่า 2 พักเนี้ย สามารถที่จะปิดสวิตช์ 3 ปอสำเร็จ ตรงนี้เนี่ย คือเหตุผลสำคัญที่ประชาชนเขาออกมาเลือก 2 พรรค แล้วคะแนนมันต่างกันแค่ 10 เสียงเนี่ย เขาตั้งใจนะว่าให้ 2 พรรคนี้เนี่ย มาหยุด 3 ปคือพอแล้ว ลุงๆทั้งหลายกลับบ้านไป แล้วนั่นก็คือความสำเร็จ ที่ 2 พักนี้เนี่ย ได้ฉันทามติจากประชาชนแล้ว เพราะฉะนั้นเนี่ย ก้าวไปด้วยกันค่ะ มัดมือกันไว้ให้แน่น คุณได้ฉันทามติจากประชาชนไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง ไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง แต่ด้วยคะแนนเสียงที่ก้าวไกลได้มากกว่าเขาต้องเป็น ผู้จัดตั้งรัฐบาลเขาต้องเป็นแกนนำ แล้วเขาต้องเป็นนายกรัฐมน นั่นก็คือกติกา ที่เป็นสากล ตรงเนี้ย อย่าลืมนะคะ 2 พัก ประชาชนเลือกทั้ง 2 ภาคเข้ามา เพื่อให้ป่า รัฐบาลเดิม แล้วก็ เปิดศักราชใหม่ ของรัฐบาลที่เปรมประชา อย่า ขัดแย้งกันด้วย เรื่องเดิมๆที่รัฐบาลเก่าๆนั้นชอบ แบ่งตำแหน่งกันไม่ลงตัวทะเลาะกันเรื่องผลประโยชน์ ไม่ใช่ ประชาชน เลือก 2 พรรคนี้มา เพื่อที่จะปิดสวิตช์ 3 ก แล้วก็ให้บริหาร ประเทศร่วมกัน คือเอาฉันทามติของประชาชนไว้คู่กัน ว่า 2 พักนี้เนี่ยต้องมัดมือกันไว้ อย่าแตกกัน ไปด้วยกัน ประคับประคองกันไป จนกระทั่ง บรรลุเป้าหมายที่ประชาชนมอบหมาย นั่นก็คือสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น อย่าทะเลาะกันไม่ว่าจะแดงหรือส้ม ไม่ต้องหวาดระแวงกัน ให้ประคับประคอง ประชาชน รับทั้ง 2 พรรคแล้วเลือกทั้ง 2 พรรคมาให้บริหารประเทศแล้วก็ผลักดันประเทศให้ ก้าวไปข้างหน้า มันต้องช่วยกัน หยุดการทะเลาะ แล้วก็หยุดการเมืองแบบเก่าๆที่มาเพื่อผลประโยชน์ เรามาเพราะประชาชนมอบหมายมา แล้วมารับใช้ประชาชน เราไม่ได้มาเพื่อผลประโยชน์ 2 พักก็ เดินหน้าไปด้วยกันค่ะ สู้ๆไปด้วยกัน ประชาชนก็จะอยู่เคียงข้างเธอ โอเคครับอาจารย์วันนี้ อาจารย์ส่งข้อความไปยังทุกวันทุกฝ่ายส่วนผมอาจจะถามดูแลท่านส่งได้ครบถ้วนมากนะครับก็ อยากให้ อะไรคนได้ฟังคลิปอาจารย์ไปด้วยกันแล้วจะตาย พิมพ์ด้วยนะเพราะคุณบอกว่าเดี๋ยวรอแชร์คลิป วันนี้อาจารย์มาเต็ม ขอบคุณอาจารย์มากครับวันนี้พี่มาสนทนากับเรา ในประเด็นตรงนี้แล้วก็ไม่พลาด เจนแล้วก็ คนใด ขอบคุณอาจารย์มากนะครับที่มาคุยกัน สวัสดีค่ะ ดูคลิปจบแล้วนะครับอย่าลืมกดติดตามและสมัครสมาชิก YouTube มติชนทีวีโดยการสแกน QR Code ด้วยนะครับ

Read More  “ปิยบุตร”ไม่เห็นด้วย “ก้าวไกล”เสนอเลือกผู้ว่าฯ-ชี้ปลดล็อกท้องถิ่นคือกระจายอำนาจแท้จริง