เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวในประเทศไทย จังหวัดอุทัยธานีนั้นเป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่หลากหลายสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่หล่อหลอม การสัมผัสชีวิตชาวบ้านแบบแท้จริง หรือการเพลิดเพลินกับอาหารอร่อยที่มีรสชาติอันหอมหวาน ในบทความนี้เราจะพาคุณสู่ทริปท่องเที่ยวสุดพิเศษในจังหวัดอุทัยธานี เส้นทางลึกลับที่เต็มไปด้วยรสชาติและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในเวลาเพียง 2 วัน 1 คืน
วันที่ 1: ตื่นนอนตอนเช้าและเริ่มการเดินทาง
เริ่มต้นวันที่ 1 ของทริปนี้เราได้ตื่นนอนขึ้นตอนแรกในตอนเช้า เราเตรียมตัวพร้อมเริ่มการเดินทางในวันนี้ค่ะ ตั้งแต่เช้ามันก็คือเวลาที่เหมาะสมในการออกเดินทางเพื่อให้เราสามารถเพลิดเพลินกับการเที่ยวมากมายได้จากกรุงเทพมหานครไปยังจังหวัดอุทัยธานี ทางเลือกที่เราเลือกในการเดินทางคือใช้รถยนต์ส่วนตัว โดยออกเดินทางตั้งแต่เช้าครึ่ง โดยใช้เส้นทางหลักทางถนนสายเอเชีย ทางอยุธยา-อุทัยธานี ระยะทางทั้งหมดในการเดินทางคือ 227 กิโลเมตร โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งถึง 3 ชั่วโมงค่ะ (หากคุณไม่มีรถยนต์ส่วนตัว คุณสามารถใช้บริการรถตู้เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดอุทัยธานี โดยขึ้นรถที่สถานีเดินรถโดยสารขนาดเล็ก จุดจำหน่ายตั๋วอยู่บริเวณอาคาร B และราคาตั๋วคือ 160 บาทต่อท่าน รถจะออกตั้งแต่เวลา 04:00 น. ถึง 18:00 น.))
ต่อเนื่อง: การเดินทางถึงจุดหมายปลายทางอุทัยธานี
เมื่อถึงจังหวัดอุทัยธานี เราได้มุ่งหน้าไปยังอำเภอทัพทัน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางแรกของเราในวันนี้ ที่นี่เราได้เลือกที่จะเข้าพักที่ “บ้านไร่ปลายนา” ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ที่น่าสนใจ ที่เราสามารถนั่งพักและจิบกาแฟในบรรยากาศชิลๆ ริมนาที่มีสีเขียวของนาข้าวคลุ้งทั่วไป หลังจากนั้น เราก็เดินทางต่อไปยังวัดจันทราราม หรือ ที่รู้จักกันในนามวัดท่าซุง ที่นี่เป็นจุดเด่นของวัดท่าซุงคือองค์พระพุทธชินราชจำลอง และหลวงพ่อฤาษีลิงดำ (เวลาที่วัดเปิดให้เข้าชมวิหารแก้วคือ 09:00-11:45 และ 14:00-16:00 น.)
เที่ยง: การสัมผัสกับอรรถประเพณีและการชิมอาหาร
เริ่มบ่ายแล้ว เราก็กลับเข้าเมืองหลักของจังหวัดอุทัยธานี แวะทานอาหารกลางวันที่ร้านเจ๊โหนกก๋วยเตี๋ยวไก่ ซึ่งเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในจังหวัดอุทัยธานี ร้านตั้งอยู่ในตรอกโรงยา และที่นี่เน้นรสชาติที่เข้มข้น ความเหนียวของเส้น และความอร่อยของเนื้อไก่ อาหารเด็ดที่เราต้องการแน่นอนคือ บะหมี่แห้งไก่ตุ๋น และความอร่อยของน้ำซุปร้อน ๆ ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว หากคุณไม่กินเนื้อไก่ คุณยังสามารถเลือกสั่งหมูเด้ง หรือลูกชิ้นในน้ำยำหรือน้ำจืดได้ตามความชอบเช่นกัน (เวลาที่ร้านเปิดให้บริการคือทุกวัน 09:00-14:00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เบอร์โทรศัพท์ 081-9721175)
บ่าย: การสนุกสนานในตัวเมืองและการกลับมาพักผ่อน
เมื่อเย็นถึง หลังจากแดดร่มลมตก เราได้ออกไปเดินเล่นบนถนนคนเดินในตัวเมืองหลักของจังหวัดอุทัยธานี ตรอกโรงยา เดิมเคยเป็นที่ตั้งของโรงฝิ่นเก่า ที่นี่มีแม่ค้าทั้งหลายจำหน่ายสินค้าที่เป็นของฝากจากชาวบ้านให้แก่นักท่องเที่ยวที่ผ่านมา สินค้าภายในตลาดประกอบไปด้วยของฮานด์เมดน่ารัก ๆ และสะสมเก่า ๆ ไม่ว่าจะเป็นของที่น่าสนใจทั้งทางด้านอาหารทั้งคาวและหวาน แทบจะเลือกไม่ถูกเลยนะคะ เพราะมีความหลากหลายเกินไป
ค่ำคืน: การสัมผัสกับอรรถประเพณีและการพักผ่อน
ค่ำคืนเมื่อแสงแดดได้ลงลมบ้านเบาๆ แล้ว เราได้ออกไปเดินเล่นต่อบนถนนคนเดินตรอกโรงยา ซึ่งกลายเป็นที่จุดสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอรรถประเพณีและการช็อปปิ้งที่มีบรรยากาศเก่าแก่ ร้านค้าและแม่ค้าที่มาตั้งของขายมีสินค้าที่หลากหลาย ทั้งของแฮนด์เมดที่น่ารัก ๆ และของสะสมเก่าแก่ ทั้งอาหารคาวและของหวานที่สามารถเลือกซื้อไปทานหรือเป็นของที่ควรจะพกพากลับบ้านได้เลยค่ะ
มื้อเย็นในวันนี้ เราเดินทางไปสัมผัสกับรสชาติของอาหารอีสานที่น่าตื่นเต้นที่ร้าน “ยำน้ำลายแตก” ซึ่งตั้งอยู่ทางไปสนามกีฬา ริมถนนหลัก ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับรสชาติที่แซ่บจากอาหารอีสานที่ถูกจัดเตรียมมาอย่างพิถีพิถัน เมนูที่เราขอแนะนำคือ “ส้มตำ” และ “ลาบ” ที่มีรสชาติที่เข้มข้นและเผ็ดร้อนที่คุณอาจจะต้องครั้งนี้เที่ยวมาลอง หลังจากที่สนุกกับอาหารเย็น เราก็กลับมาพักผ่อนที่ที่พัก “แพ บ้าน บ้าน” ซึ่งเป็นที่พักที่น่ารักและมีบรรยากาศเงียบสงบอยู่ริมแม่น้ำสะแกกรัง ที่ท่านอาจได้เชื่อมต่อกับธรรมชาติและพักผ่อนเป็นอย่างดี ระหว่างการพัก คุณสามารถชมพระอาทิตย์ตกดินจากหน้าแม่น้ำได้เลยค่ะ (ที่พักสามารถรองรับผู้เข้าพักได้ 4 ท่าน ราคา 3500 บาทรวมอาหารเช้า หากต้องการเพิ่มผู้เข้าพักเพิ่มเติมสามารถเสริมได้โดยเพิ่ม 500 บาทต่อท่าน)
สิ้นสุดวันที่ 1: การพักผ่อนหลังวันที่เหน็ดเหนื่อย
จากการท่องเที่ยวและสัมผัสกับประสบการณ์ต่าง ๆ ในวันนี้ เมื่อค่ำคืนเราก็กลับมาพักผ่อนที่ที่พักอีกครั้ง โดยสิ้นสุดการเดินทางของวันนี้ไปด้วยความสุขและความพอใจ ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมในการเดินทางต่อในวันถัดไปค่ะ สวัสดีค่ะและขอให้คืนนี้คุณได้พักผ่อนอย่างสบายใจค่ะ… หลับเสมอค่ะ
วันที่ 2
เช้า: สัมผัสความเป็นท้องถิ่นและการเที่ยวตลาด
เริ่มวันที่สองด้วยการตื่นขึ้นในเช้าวันนี้ เวลา 06.15 น. เจ้าของที่พักได้พาเรามานั่งเรือเพื่อเดินทางไปเยี่ยมชมตลาดเช้า ภายในตลาดเช้านี้ เราได้ทำบุญโดยการใส่บาตรพระพายเรือร่วมกันค่ะ ระหว่างทางเดินจากที่พักไปยังตลาด เราได้เห็นวิวสวยงามสองข้างทางที่ชิลและสโลว์ไลฟ์สุดๆ และได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจจากการเดินทางนี้
สาย: ชมวิวยอดเขาและเยี่ยมชมร้านของฝาก
หลังจากเช็คเอาส์ออกจากที่พัก เราได้ขับรถขึ้นไปยังยอดเขาสะแกกรังค่ะ ที่นี่เราสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่กว้างขวางของเมืองอุทัยธานีจากบนยอดเขาได้ และยังสามารถเห็นรอยพระพุทธบาทจำลองที่ตั้งอยู่บนยอดเขาด้วยค่ะ หลังจากนั้น เราไปแวะซื้อของฝากที่ร้าน “ไพรพรรณ” ซึ่งมีขนมปังสังขยาและขนมกุ้งกรอบข้าวเกรียบปลากลายที่เป็นของฝากที่เป็นที่นิยมของคนที่มาเยี่ยมชมจังหวัดอุทัยธานีค่ะ
เที่ยง: สัมผัสรสชาติอร่อยและการชมวิวริมแม่น้ำ
เป็นเวลากลางวันแล้ว เราได้มีโอกาสที่จะสัมผัสรสชาติอร่อยจากมื้อกลางวันที่ร้าน “มุมสะแก” ซึ่งตั้งอยู่ปลายสะพานวัดอุโบสถาราม ที่นี่ไม่เพียงแต่เราได้สัมผัสรสชาติอร่อยของอาหารที่ทางร้านเสิร์ฟ แต่ยังมีการนั่งชมวิวบรรยากาศริมแม่น้ำสะแกกรังอีกด้วยค่ะ
บ่าย: การสำรวจและการชมวิวบนเขา
หลังจากมื้อกลางวัน เราได้ออกเดินทางไปยังอำเภอลานสัก เป็นการเดินทางที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจากตัวเมืองอุทัยธานี โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 333 (อุทัยธานี-หนองฉาง) และหลวงหมายเลข 3438 (หนองฉาง-ลานสัก) เพื่อไปสำรวจและชมวิวที่หุบป่าตาด ที่เป็นจุดเที่ยวที่รับความนิยมอย่างมากในจังหวัดอุทัยธานี ที่นี่มีหินงอก หินย้อย และต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ โดยจะมีป้ายบอกชื่อต้นไม้แต่ละชนิด ค่าบริการสำหรับการเข้าชมที่นี่คือ 20 บาทต่อคน และเวลาเปิดให้บริการถึงเวลา 16.00 น.
ในต่อไปเราไปที่จุดชมวิวบ้านชายเขา ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจังหวัดอุทัยธานี ที่นี่เราสามารถชมวิวที่สวยงามเหมือนกันกับการเดินทางไปเมืองนอกได้ค่ะ จุดชมวิวบ้านชายเขาตั้งอยู่ห่างจากหุบป่าตาดเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น และช่วงหน้าหนาวจะทำให้อากาศเย็น นอกจากนี้ ชาวบ้านบางคนที่อาศัยในพื้นที่นี้เรียกจุดชมวิวบ้านชายเขาว่า “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” ที่เป็นชื่อเรียกที่สื่อถึงความงดงามของวิวที่นี่ค่ะ หลังจากถ่ายรูปกันเสร็จก็ถือว่าสิ้นสุดทริปสุดชิลสำหรับเราในจังหวัดอุทัยธานี 2 วัน 1 คืนค่ะ บันทึกความทรงจำและประสบการณ์ที่น่าประทับใจเสมอไปกับเราค่ะ จบความสนุกสนานที่นี่ค่ะ ขับรถกลับสู่กรุงเทพฯในเวลาค่ำคืนค่ะ
ทริปนี้เราใช้ค่าใช่จ่ายไปประมาณ 2,375 บาท / คน
ทริปนี้เป็นการเดินทางที่น่าจดจำอย่างมากสำหรับเรา โดยเราได้ใช้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 2,375 บาทต่อคนค่ะ ข้อสำคัญที่สุดในการคำนวณค่าใช้จ่ายคือการแบ่งปันค่าที่พักและค่าน้ำมันรถ รวมถึงค่าอาหารที่เราทานร่วมกันด้วยนะคะ
เราได้พักที่ที่พักน่ารักโดยการหารือกับเจ้าของที่พัก ที่พักคืนเดียวมีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 3,500 บาท ซึ่งถูกแบ่งไปเป็น 4 คน โดยละ 875 บาทต่อคนค่ะ ที่พักนี้มีบรรยากาศที่อบอุ่นและสะดวกสบาย ทำให้เราสามารถผ่อนคลายและพักผ่อนได้อย่างดีเยี่ยมค่ะ
การเดินทางในทริปนี้เราใช้รถส่วนตัว และค่าน้ำมันรถรวมทั้งหมดได้ประมาณ 2,000 บาท ซึ่งแบ่งกันระหว่างเพื่อนๆ ที่เดินทางร่วมกัน ทำให้คนละ 500 บาทค่ะ การมีรถส่วนตัวช่วยให้เราสะดวกในการเดินทางและเลือกสถานที่ท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ
เรื่องอาหารเป็นส่วนที่ทำให้ทริปนี้เต็มไปด้วยความสนุกและอร่อยค่ะ เราใช้เวลาอยู่ในร้านอาหารร่วมกันประมาณ 1,000 บาท ที่นี่เราได้มีโอกาสลิ้มลองรสชาติของอาหารท้องถิ่นและรับประทานอาหารเข้าร่วมกันในบรรยากาศที่อบอุ่น
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้จะขึ้นอยู่กับที่พักที่เราเลือกและร้านอาหารที่เราเลือกทานร่วมกันนะคะ แต่อย่างใดก็ตาม ทริปนี้เป็นการเดินทางที่คุ้มค่าและท้าทายที่น่าสนุกมาก และเราจะไม่ลืมความประทับใจและประสบการณ์ที่ได้รับจากทริปนี้เสมอค่ะ
สรุป
สรุปลงในคำว่า ทริปนี้เป็นการเดินทางที่น่าประทับใจมากที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและประสบการณ์ที่จะเก็บไว้ด้วยกันตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเพลิดเพลินกับวิวที่สวยงามบนยอดเขา การพบเจอกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวบ้านท้องถิ่น และการสัมผัสกับรสชาติอาหารท้องถิ่นที่อร่อยจนลิ้มลองไม่หยุด ทริปนี้เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่จะอยากแนะนำและแบ่งปันกับเพื่อนๆ และครอบครัวค่ะ
FAQs
ทริปนี้มีกิจกรรมใดที่น่าสนใจสำหรับคนที่ไม่ชอบการเดินทางยาวๆ?
แนะนำให้ลองสัมผัสบรรยากาศของตลาดเช้าริมแม่น้ำสะแกกรังเพื่อรับรู้วิถีชีวิตท้องถิ่น และตักบาตรพระพายเรือเพื่อเพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ โดยไม่ต้องเดินทางไกล
มีร้านอาหารใดที่แนะนำสำหรับการทานอาหารท้องถิ่น?
แนะนำร้านเจ๊โหนกก๋วยเตี๋ยวไก่ที่มีรสชาติอร่อยและเมนูหลากหลาย และร้านยำน้ำลายแตกที่มีเมนูสุดแซ่บที่ไม่ควรพลาด
มีกิจกรรมอะไรที่น่าสนใจในช่วงเย็น?
คุณสามารถไปเดินเล่นถนนคนเดินตรอกโรงยาเพื่อสัมผัสบรรยากาศเมืองเล็กๆ และสัมผัสกับการค้าของชาวบ้านที่นี่
ที่พักแบบไหนที่คุ้มค่าและมีบรรยากาศที่ดี?
เราพักที่แพ บ้าน บ้าน ที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำสะแกกรัง ที่มีบรรยากาศเงียบสงบและอบอุ่น สามารถพักผ่อนในบรรยากาศธรรมชาติได้อย่างสบายสะดวก
ทริปนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบการผจญภัยและการเดินทางแบบเป็นกลุ่มหรือไม่?
ใช่ค่ะ ทริปนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบการผจญภัยและการสำรวจสถานที่ใหม่ๆ โดยเฉพาะถ้าคุณเดินทางแบบกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว เพื่อสร้างความทรงจำและประสบการณ์ที่มีคุณค่าค่ะ
3นาทีรู้เรื่อง : ทริป 2 วัน 1 คืน อุทัยธานี เที่ยวUnseen ตะลุยกินของอร่อย นอนแพริมน้ำ [VIDEO]
Day1 : ตื่นนอนกันแต่เช้าแล้วออกเดินทางกันเลยค่ะ
เช้า
เราออกเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวกันแต่เช้าค่ะเพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ จากกรุงเทพ-อุทัยธานี ใช้เส้นทางหลักถนนสายเอเชีย อยุธยา-อุทัยธานี ระยะทาง 227 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 3 ชั่วโมงค่ะ (ใครที่ไม่มีรถส่วนตัว สามารถเดินทางโดนรถตู้ได้ค่ะ ขึ้นรถที่ สถานีเดินรถโดยสารขนาดเล็ก จุดจำหน่ายตั๋วอยู่บริเวณ อาคารB ตั๋วราคา 160 บาท/ท่าน รถออกตั้งแต่ 04.00น.-18.00น.)
สายๆ
ถึง อุทัยธานี เรามุ่งหน้าไปที่ อ.ทัพทัน ไปเช็คอินชิลๆ กันที่ สถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่ “บ้านไร่ปลายนา” ไปนั่งพักจิบกาแฟดริปชิลๆ ริมท้องนาสีเขียวๆ
จากนั้น ก็เดินทางต่อไปที่ วัดจันทราราม หรือ วัดท่าซุง จุดเด่นของวัดท่าซุง คือ องค์พระพุทธชินราชจำลอง และหลวงพ่อฤาษีลิงดำ (เวลาเปิดให้เข้าชมวิหารแก้ว 09.00-11.45 และ 14.00-16.00น.)
เที่ยง
กลับเข้าตัวเมือง แวะทานอาหารกลางวันที่ ร้านเจ๊โหนกก๋วยเตี๋ยวไก่ ร้านก๋วยเตี๋ยวขึ้นชื่อของจังหวัดอุทัยธานีร้านตั้งอยู่ในตรอกโรงยา ทีนี่เขาเน้นรสชาติ ความเหนียวนุ่มของเส้น และเนื้อไก่ เมนูเด็ดที่ต้องจัดเลยก็คือ บะหมี่แห้งไก่ตุ๋น ขอน้ำซุปแยกซดน้ำร้อนๆด้วยนะคะ จะเด็ดมาก ใครไม่กินไก่ก็มีหมูเด้ง ลูกชิ้น จะต้มยำต้มจืดก็สั่งได้เลยค่ะ เดี๋ยวเจ๊แกจัดให้ (เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00-14.00น. โทรศัพท์ : 081-9721175)
บ่าย
กินอิ่มแล้ว ก็เดินทางไปเช็คอินเข้าที่พักค่ะ ครั้งนี้เรา พักกันที่ แพ บ้าน บ้าน ที่พักน่ารักใหม่แกะกล่อง ตั้งอยู่บนแม่น้ำสะแกกรังเลยค่ะ อยู่ห่างจากใจกลางเมืองแค่ 5 กิโลเมตร เองค่ะ บรรยากาศที่พักด้านบนเป็นสวนผลไม้ ส่วนในแพก็เป็นแพไม้ดีไซน์น่ารัก ตกแต่งสไตล์วินเทจ ชมพระอาทิตย์ตกได้จากหน้าแพที่พักเลยค่ะ (พักได้ 4 ท่าน ราคา 3500 บาท เสริมได้อีก 2 ท่าน ท่านละ 500 บาท ราคานี้รวมอาหารเช้าค่ะ)
เย็น
แดดร่มลมตกก็ออกไปเดินเล่น ถนนคนเดินตรอกโรงยากันค่ะซึ่งเดิมทีเป็นที่ตั้งของโรงฝิ่นเก่า มีเหล่าแม่ค้าที่เป็นชาวบ้านมาตั้งของขายให้แก่นักท่องเที่ยวที่ผ่านไปผ่านมา สินค้าภายในตลาดก็จะมีทั้งของแฮนด์เมดน่ารัก ๆ ของสะสมเก่าแก่ อาหารทั้งคาวหวาน บอกเลยว่าเยอะจนเลือกซื้อไม่ถูกเลยล่ะค่ะ
มื้อเย็นวันนี้ ขอไปจัดหนัดจัดเต็มที่ ร้านอาหารอีสานสุดแซ่บเจ้าดังที่ ร้านยำน้ำลายแตก ค่ะ ร้านนี้ตั้งอยู่ทางไปสนามกีฬาค่ะ ริมถนนหลักเลยค่ะ
บอกเลยแซ่บอีหลีสุดทรวงทลวงไส้ทุกเมนู
ทานกันจนอิ่มท้องก็กลับที่พักนอนพักผ่อนกันค่ะ…Goodnight
Day 2
เช้า
06.15น. เจ้าของแพพานั่งเรือไปเที่ยวตลาดเช้า พามาทำบุญใส่บาตรพระพายเรือกันค่ะ ระหว่างทางจากแพมาตลาดวิวสองข้างทางชิล และสโลว์ไลฟ์สุดๆ
แล้วไปเดินตลาดเช้าริมแม่น้ำสะแกกรัง สัมผัสกับวิถีชีวิตชาวอุทัย ส่วนกิจกรรมที่นิยมทำกันก็คือ ตักบาตรพระพายเรือ(ทุกวัน 07.00น.)
จากนั้นก็เดินทางกลับที่พัก ทานอาหารเช้า แบบจัดหนักจัดเต็ม แล้วก็เซ็คเอาส์ ออกเดินทางกันต่อจ้า…
สาย
เช็คเอาส์ออกจากที่พัก ขับรถขึ้นไปเที่ยวบนยอดเขาสะแกกรังค่ะ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองอุทัยธานีได้กว้างขวางจากบนยอดเขา และยังเป็นที่ตั้งของมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง แล้วไปแวะซื้อของฝาก ขนมปังสังขยาร้านไพรพรรณ ข้าวกุ้งกรอบข้าวเกรียบปลากลายที่ ร้านแม่ป่วยลั้ง
เที่ยง
ทานมื้อกลางวัน จิบกาแฟ กินโรตีอร่อยๆ กันที่ ร้านมุมสะแก ร้านนี้ตั้งอยู่ปลายสะพานวัดอุโบสถารามอยู่ในตราดเลยค่ะ นอกจากจะได้กินของอร่อยแล้ว ยังได้นั่งชมวิวบรรยากาศริมแม่น้ำสะแกกรังอีกด้วยจ้
บ่าย
ออกเดินทางไปที่ อ.ลานสัก ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง จากตัวเมืองอุทัยธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 333 (อุทัยธานี-หนองฉาง) และเข้าทางหลวงหมายเลข 3438 (หนองฉาง-ลานสัก) ไปอีกประมาณ 90 กิโลเมตร ก็จะถึงจุดหมาย หุบป่าตาดอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน สถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand สุดฮิตของจังหวัดอุทัยธานี ด้านในจะมีหินงอก หินย้อย และต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ พร้อมมีป้ายบอกชื่อต้นไม้แต่ละชนิด (ค่าบริการ คนละ 20 บาท ปิดเวลา 16.00 น. เป็นต้นไป)
ต่อกันด้วยที่สุดท้ายที่ จุดชมวิวบ้านชายเขา ที่เที่ยวแห่งใหม่อุทัยธานี วิวดีเหมือนได้ไปเมืองนอกเลยค่ะ ที่เที่ยวแห่งนี้อยู่ห่างจาก หุบป่าตาด แค่ 2 กิโลเมตร ค่ะ ช่วงหน้าหนาวอากาศจะหนาวมาก ชาวบ้านบางคนแถวนี้เรียกที่นี่ว่า จุดชมวิวบ้านชายเขาสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ถ่ายรูปกันเสร็จก็เย็นพอดี ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้วค่ะ ถึงกรุงเทพ ค่ำๆ เป็นอันจบทริปสุดชิลของเราครั้งนี้ค่ะ ขับเที่ยวจังหวัดอุทัยธานี 2 วัน 1 คืน
ทริปนี้เราใช้ค่าใช่จ่ายไปประมาณ 2,375 บาท / คน
-ค่าที่พัก 1 คืน 3,500 บาท(4คน) คนละ 875 บาท
-ค่าน้ำมันรถ 2,000 บาท คนละ 500 บาท
-ค่ากิน 1,000 บาท
*ค่าใช้จ่ายจะถูกจะแพงขึ้นอยู่กับที่พักที่เราเลือกและร้านอาหารที่เราทานกันค่ะ*