รีวิว Soneva Kiri: สุดยอดรีสอร์ทเกาะกูด บินส่วนตัว เดินเท้าเปล่า คืนละ 500,000!?

สวัสดีค่ะ! ก่อนที่เราจะเข้าสู่รายละเอียดของ Soneva Kiri เกาะกูดที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความสุดหรู ลองจินตนาการกันครั้งหนึ่งว่าคุณกำลังบินโดยส่วนตัวเข้าสู่รีสอร์ทนี้ การได้สัมผัสประสบการณ์บินส่วนตัวสำหรับคุณเองจะเป็นเรื่องที่หรูหราและไม่มีใครเหมือน และเมื่อเดินเท้าเปล่าเข้าสู่สถานที่นี้ คุณจะรับรู้ถึงความสุขและความเป็นไปได้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

การบินส่วนตัวที่หรูหรา

Soneva Kiri สุดยอดรีสอร์ทเกาะกูด บินส่วนตัว เดินเท้าเปล่า คืนละ 500,000!? -  YouTube

การเดินทางสู่ Soneva Kiri เริ่มต้นด้วยการบินส่วนตัวที่ให้คุณได้สัมผัสความหรูหราและความสะดวกสบายอย่างแท้จริง การเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวจะทำให้คุณสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายและเป็นส่วนตัว ไม่ต้องรอคอยในสนามบินหรือเจอความวุ่นวายจากผู้โดยสารคนอื่น คุณจะได้สัมผัสถึงความหรูหราที่สุดและการต้อนรับที่ไม่มีใครเหมือนในทุกเส้นทางของการเดินทาง

บรรยากาศความหรูหราเพลิดเพลินบนเกาะกูด Soneva Kiri

Soneva Kiri สุดยอดรีสอร์ทเกาะกูด บินส่วนตัว เดินเท้าเปล่า คืนละ 500,000!?

เมื่อคุณถึง Soneva Kiri คุณจะพบกับความหรูหราที่ไร้เทียมทานที่นี่ แนวคิดของ “บรรยากาศความหรูหราเพลิดเพลิน” ถูกตีตลอดรีสอร์ท การเดินเท้าเปล่าที่นี่เป็นสิ่งที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของ Soneva Kiri ที่เน้นความเป็นกลางและเพลิดเพลินเป็นสิ่งสำคัญ คุณจะรับรู้ถึงอายุขัยที่สะดวกสบายในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสงบและความเป็นส่วนตัว

ที่พักหรูไม่เหมือนใครที่ Soneva Kiri

Soneva Kiri สุดยอดรีสอร์ทเกาะกูด บินส่วนตัว เดินเท้าเปล่า คืนละ 500,000!?

ที่พักที่ Soneva Kiri นับว่าเป็นสถานที่พักที่ไม่เหมือนใครที่คุณจะเคยพบมาก่อน คุณสามารถเลือกพักในวิลล่าหรูหราหรือที่พักต่าง ๆ ที่มีการตกแต่งที่สวยงามและบริการที่ปรับให้เข้ากับความต้องการของคุณ ที่พักที่นี่มีอุปกรณ์ที่เหมาะสมและบริการที่พร้อมจัดให้ ทำให้คุณรับรู้ถึงความสะดวกสบายและความพิเศษอย่างสมบูรณ์

กิจกรรมและประสบการณ์ที่น่าทึ่ง

ส่องความลักซ์ชัวรี่ 'Soneva Kiri'สุดยอดรีสอร์ทเกาะกูด แพงสุดคืนละ 5 แสน |  เดลินิวส์

ที่ Soneva Kiri คุณจะไม่มีเวลาเบื่อเนื่องจากมีกิจกรรมและประสบการณ์ที่น่าทึ่งมากมายให้คุณได้เลือกสนุกสนาน คุณสามารถเพลิดเพลินกับการผจญภัยในธรรมชาติที่ร่วมสมัยหรือผ่อนคลายตัวเองในสถานที่ที่ทำให้คุณสงบและผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นการแต่งสวนหรือเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่นี่คุณจะพบกับประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใครและจะทำให้คุณประทับใจอย่างแน่นอน

สุขภาพและการพักผ่อนที่ Soneva Kiri

Soneva Kiri สุดยอดรีสอร์ทเกาะกูด บินส่วนตัว เดินเท้าเปล่า คืนละ 500,000!? -  YouTube

ที่ Soneva Kiri คุณสามารถส่งตัวเองให้ผ่อนคลายและฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่รีสอร์ทนี้มีสปาที่มีคุณภาพสูงที่สุดให้คุณได้สัมผัสการนวดและการดูแลที่เป็นที่นิยมทั้งในแง่ของการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้ยังมีคลาสโยคะและกิจกรรมอื่น ๆ เช่น โยคะและกายกรรม ซึ่งช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นและมีสุขภาพที่ดี

การสำรองที่ Soneva Kiri

Soneva Kiri สุดยอดรีสอร์ทเกาะกูด บินส่วนตัว คืนละห้าแสนบาท – โป๊ะเช๊ะ ดอท  คอม

Soneva Kiri มีความมุ่งมั่นที่จะรักษาสิ่งแวดล้อมและการสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน รีสอร์ทนี้ได้มีการดำเนินงานเพื่อลดการใช้พลังงานและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ โดยมีการใช้พลังงานที่สะอาดและการประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ยังมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดขยะที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดและการปลูกต้นไม้เพื่อรักษาความสมดุลทางธรรมชาติ

วิธีการจองประสบการณ์ Soneva Kiri

Soneva Kiri สุดยอดรีสอร์ทเกาะกูด บินส่วนตัว คืนละห้าแสนบาท – โป๊ะเช๊ะ ดอท  คอม

หากคุณต้องการจองประสบการณ์ใน Soneva Kiri คุณสามารถติดต่อทางโทรศัพท์หรืออีเมลที่รีสอร์ทเพื่อตรวจสอบความพร้อมในการเข้าพัก รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจองและรายละเอียดที่พักสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Soneva Kiri

สรุป

Soneva Kiri เป็นสุดยอดรีสอร์ทเกาะกูดที่นำเสนอประสบการณ์ความหรูหราและไม่เหมือนใคร ที่นี่คุณจะได้สัมผัสความสะดวกสบายที่ยอดเยี่ยม การบินส่วนตัวเข้าสู่รีสอร์ทนี้ การเดินเท้าเปล่า และความหลงใหลในความสวยงามของธรรมชาติทำให้คุณรับรู้ถึงความแตกต่างของ Soneva Kiri สถานที่พักที่หรู

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. Soneva Kiri อยู่บนเกาะใด?

Soneva Kiri ตั้งอยู่บนเกาะกูดในจังหวัดตราด ในตำบลเกาะกูด เมืองประจวบคีรีขันธ์ ประเทศไทย

2. สิ่งอำนวยความสะดวกที่ Soneva Kiri มีอะไรบ้าง?

Soneva Kiri มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย เช่น สปาที่มีคุณภาพสูง ร้านอาหารที่น่าตื่นเต้น สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย โรงภาพยนตร์ใต้ดิน และกิจกรรมสำหรับเด็กและผู้ใหญ่

3. สามารถจองการเข้าพักที่ Soneva Kiri ได้อย่างไร?

คุณสามารถจองการเข้าพักที่ Soneva Kiri โดยติดต่อทางโทรศัพท์หรืออีเมลที่รีสอร์ท คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจองและรายละเอียดที่พักได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Soneva Kiri

4. Soneva Kiri เหมาะสำหรับผู้ที่มาพักเป็นครอบครัวหรือไม่?

ใช่, Soneva Kiri เหมาะสำหรับผู้มาพักเป็นครอบครัว เนื่องจากมีกิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมถึงมีเพลงสำหรับเด็กและโรงภาพยนตร์ใต้ดินที่น่าตื่นเต้น

Soneva Kiri สุดยอดรีสอร์ทเกาะกูด บินส่วนตัว เดินเท้าเปล่า คืนละ 500,000!? [VIDEO]

ที่นี่คือ Soneva Kiri เป็นรีสอร์ทสุดหรูที่ตั้งอยู่บนเกาะกูด จังหวัดตราด ซึ่งผมคิดว่าที่นี่น่าจะเป็นรีสอร์ทที่ให้ประสบการณ์ที่แปลก และแตกต่างที่สุดแห่งนึงที่ผมเคยพบเจอมา เราเดินทางมาที่นี่ด้วยเครื่องบินส่วนตัว มาลงที่รันเวย์ของตัวรีสอร์ท ที่สร้างไว้เพื่อให้เครื่องบินลงจอดโดยเฉพาะ ในตัวรีสอร์ทมี Time Zone เป็นของตัวเองที่เร็วกว่าโลกภายนอก 1 ชั่วโมง และเมื่อมาถึงที่นี่เค้าจะให้เราถอดรองเท้า เดินเท้าเปล่าตลอดทั้งรีสอร์ท !? ราคาที่พักของที่นี่ไม่ธรรมดาเลย ช่วง High Season ที่นี่เริ่มต้นที่คืนละประมาณ 40,000 ไปจนถึงคืนละประมาณ 500,000 บาท! ซึ่งหลังจากที่ได้มาพักแล้ว ต้องบอกว่าประสบการณ์ที่ได้จากที่นี่ ไม่เหมือนที่อื่นจริงๆ ในคลิปนี้มีรายละเอียดเยอะมากที่ผมอยากจะเล่าให้ฟัง จะเป็นยังไง ไปชมกัน!

เนื้อหาของวิดีโอ Soneva Kiri สุดยอดรีสอร์ทเกาะกูด บินส่วนตัว เดินเท้าเปล่า คืนละ 500,000!?

รีสอร์ทที่เราอยู่ตอนนี้นะครับมีชื่อว่าโซเนวาคีรี ครับเป็นรีสอร์ทสุดหรูที่ตั้งอยู่ที่เกาะกูดจังหวัดตราด ประเทศไทยเรา ซึ่งที่นี่นะครับเป็นรีสอร์ทที่แปลกแล้วก็มีเอกลักษณ์ที่สุดแห่งหนึ่งที่ เคยได้ไปมาเลย ซึ่งมันแปลกยังไงนะครับ เราอยู่กันที่เกาะกูดใช่ไหมครับ แต่เราไม่ได้นั่งเรือมา เมื่อเราจองที่พัก กลับตอนไหนว่า เขาจะพาเราขึ้นเครื่องบินส่วนตัวนะครับมาลงที่รันเวย์ส่วนตัวในรีสอร์ท ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อให้เครื่องบินลงจอด กำลังจะมาถึงที่นี่ปุ๊บ เขาจะให้เราถอดรองเท้าเดินเท้าเปล่าทั้งรีสอร์ท แล้วนอกจากนั้นเนี่ยเขาจะให้เราปรับเวลาให้เร็วขึ้นอีก 1 ชั่วโมงนะครับเพราะเขาบอกว่าโซเนวา มีไทม์โซนเป็น เพลงและไม่ต้องยุ่ง ซึ่งที่นี่นะครับ มีรายละเอียดต่างๆ อีกเยอะแยะมากมายเลย ที่ผมอยากจะเล่าให้ทุกคนฟัง จะเป็นยังไง ไปส่งกัน ก่อนที่ผมจะพาไปดูทั้งหมดของรีสอร์ทนะครับอยากจะขอเล่าประวัติของที่นี่ให้ฟังก่อนนะครับ Philodendron รีสอร์ทระดับ World Class เลยนะครับซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1995 ที่ประเทศเมา ที่มาของชื่อ Sony ว่าได้มาจากชื่อของสองสามีภรรยาผู้ก่อตั้งนะครับก็คือคุณสนุกกับคุณเอวา ทั้งคู่เนี่ยมีจุดประสงค์อยากจะสร้าง sustainable tourism destinations นะครับ หรือว่าเป็นรีสอร์ท ที่มีการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนด้วยนะ โดยให้แขกที่เข้ามาพักเนี่ยได้สามารถสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราแต่ในขณะเดียวกันเนี่ย ก็สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ปัจจุบันโซเนวามีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 แห่งนะครับ แห่งแรกคือโซเนวาฟูชิ แห่งที่ 2 คือ Sony ว่าจะนี่ ซึ่งทั้งสองแห่งนี้จะอยู่ที่มัลดีฟนะครับ และแห่งที่ 3 ก็คือโซเนวาคีรีซึ่งตั้งอยู่ที่ ที่ประเทศไทยแห่งนี้นั่นเอง พื้นที่ของโซเนวาคีรีนะครับตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะกูดจังหวัดตราด รีสอร์ทในมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 150 ไร่ ปัจจุบันมีวิลล่าอยู่ทั้งหมด 34 หลัง นะครับเริ่มต้นตั้งแต่ขนาด 1 ห้องนอนไปจนถึงห้องนอนเลย จุดแรกสุดที่อยากจะพามาดูนะครับคือบริเวณท่าเรือของ ตัวรีสอร์ท นะครับอย่างที่บอกไปตอนแรกว่า เราจะนั่งเครื่องบินส่วนตัวมา เครื่องเนี้ยจะออกจากสุวรรณภูมิ บินมาลงที่เกาะไม้ซี้นะครับ ซึ่งเกาะไม้สีเนี่ย จะเป็นเกาะที่อยู่ข้างๆกับตัวรีสอร์ท แล้วก็ทั้งเกาะไม่มีอะไรเลยมีแค่รันเวย์นะครับที่เขาสร้างเอาไว้ให้เครื่องบินบินมาลงจอด แล้วพอหลังจากเครื่องบินจอด Facebook เขาก็จะพาเรานั่งสปีดโบ๊ทนะคะใช้เวลาประมาณสักนิด ถึง 10 นาทีเนี่ย มาจอดบริเวณ ท่าเรือตรงนี้ แล้วก็ขนของขน เป็นอันว่าเรามา ถึงตัวรีสอร์ท sotus คอนเซ็ปอย่างนึงของตัวรีสอร์ทแห่งนี้นะครับคือ No News สิ่งแรกสุดที่เขาอยากจะให้เราทำนะคือการ ถอดรองเท้าเมื่อมาถึง สาเหตุที่เขาให้ถอดเพราะว่าเขาอยากให้เราเดินเท้าเปล่า เท้าเราจะได้ สัมผัสกับความ ธรรมชาตินะครับ เดินไปเจอหินเจอทราย แล้วก็สิ่งปลูกสร้างต่างๆที่อยู่ในรีสอร์ทแห่งนี้ ส่วนใหญ่จะทำด้วยไม้หมด นะครับแล้วก็ถ้าเกิดเราสังเกตเนี่ยเขาจะไม่ได้ทาสี เพราะว่าเป็นการลดปริมาณการใช้ แล้วก็ในรีสอร์ท พลาสติกซีล คือไม่มีการ การใช้พลาสติก เพื่อที่จะเป็นการไม่ทำลายทำไม ส่วน Concept อีกอย่างนึงนะครับก็คือโดนนิวนะครับ อยู่ที่เนี่ยเขาจะมีความแบบอยากจะให้เราตัดขาดจากโลกภายนอกระดับ แล้วก็รับรู้ข่าวสาร อาหารเกี่ยวกับข้างนอกให้ได้น้อยที่สุด เพื่อที่เราจะได้สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็ม ดังนั้นมันเลยมีอย่างนึง ที่ผมว่า โรงแรมอื่นๆ หรือรีสอร์ท 1 ไม่ค่อยมีก็คือ ห้องสมุด คืนหนังสือเนี่ยมันจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราโฟกัส จดจ่ออยู่ อยู่กับตัวเองได้แล้วก็เราจะแตะมือถือ หรือน้อยลงจับมือ เขาก็เลยมีมุมให้เราสามารถไปยืม ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ มีไม่กี่ที่หรอกที่เขาจะมี โทรทัศน์เข้ามาด้านในนะครับตรงจุดที่ผมอยู่ตรงนี้จะเป็นเหมือนกับ Center ตรงกลาง ของตัวรีสอร์ท ตรงนี้จะเป็นส่วนที่เขามีแฟซิลิตี้ต่างๆล้อมรอบอยู่ ตอนนี้นะมีทั้งร้านอาหารมีทั้งร้านขายของมีเหล้ามีอะไรบ้าง ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ ที่เนี่ยจะแตก จากที่อื่นคือที่จะไม่มีล็อบบี้นะครับ คือ Lobby เนี่ยเขามองว่ามันไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นมาก รักนะครับแต่สิ่งที่จำเป็นกว่าคือพนักงานต้อนรับต่างหาก แขกทุกคนจะมี Butler ส่วนตัวนะครับที่เขาเรียกว่าแบบฟุตบอลนะครับ หรือ อีกชื่อหนึ่งเรียกว่า Friday Friday ของเราเนี่ยเขาจะเป็นคนที่คอยต้อนรับเราตั้งแต่เราลงจากเรือมาเลยนะ ครับแล้วก็ระวัง ทางที่เราใช้ชีวิตอยู่ในรีสอร์ท เขาจะเป็นคนคอยอำนวยความสะดวกทุกอย่างอยากได้อะไรบอกเขา ดูแลเราจนกระทั่งกลับบ้านเลย เดินเข้ามาตรงนี้นะครับตรงนี้จะเป็นศูนย์ของครูบานะที่มีชื่อว่า Arizona Solstice นะครับเป็นบางที่ชื่อยาวมาก ตรงจุดนี้มันจะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำของโรงแรมนะฮะแล้วก็จะมองเห็นวิวทะเลที่มันสวยงามมากๆเลย แขกก็สามารถมาจิบเครื่องดื่มกินอาหารพักผ่อนตรงนี้ได้นะครับ Concept ของการกินใน Sony ว่าทุกคน เขามีร้านอาหาร อาหารให้แขก เลือกได้หลายร้านเลยนะครับไม่ว่าจะเป็น อาหารไทยอาหารฝรั่ง ซีฟู้ดนะครับ มีให้เลือกหลายแบบ แล้วนอกจากนั้นเนี่ย วิธีการกิน เขาเป็น Concept แบบ all day Any where any time นะครับคือเราจะกินตรงไหนก็ได้ตอนเช้าเราจะให้เขาไปตั้งโต๊ะตรงริมท่าเรือ ดูพระอาทิตย์ขึ้น แล้วก็กินข้าวเช้าไปด้วย ตอนกลางวันเราจะขึ้นไปบนฟรีพอร์ตกระเช้าต้นไม้ซับสนุ่นทีก็ทำได้หรือว่าตอนเย็นเราจะรอ ล่องเรือไปตั้งโต๊ะปิคนิคริมชายหาดเปิดแคมเปญดูพระอาทิตย์ตกก็ทำได้นะครับ แล้วตัว Concept ออลเดย์ของเขานะทุกคน คือมันเอาจริง คือนอกจากอาหาร อาหารก็จะเสิร์ฟตลอดเวลาแหละ ตรงจุดที่ผมอยู่ตรงนี้จะเป็นลาว ที่มีชื่อว่า Social โซชิลเนี่ยเขาจะเสิร์ฟ ตลอดทั้งวันตั้งแต่ 11:00 น จน 5 ทุ่มนะทุกคน คือถ้าเกิดเราอยากกินขนมหวาน แม่สามารถมาหยิบกินตรงนี้ได้เลย แล้วข้างๆกันจะมี ชิซูโอกะ ที่ข้างในจะมีเสิร์ฟชีสแล้วก็ Cold cut ก็จะตลอด แล้วก็ใกล้ๆกับปลาร้านะ จะมีแฟนอีกอันหนึ่งที่ผมไม่เคยเห็นที่โรงแรมน่ะ นั่นก็คือ of cervical นั้นคนหรือว่าหอดูดาวนั่นเองนะครับ ข้างบนน่าจะมีกล้องดูดาวอยู่นะคะแล้วก็ตัวหลังคามันจะหมุนได้ 360 10 องศาเลย เลยนะครับเพื่อที่จะให้ดูดาวตรงไหน ไหนบนท้องฟ้าก็ได้นะฮะ ในวันที่ฟ้าเปิด ทุกคนตรงนี้มันคือเกาะ จุดที่ Life ยังนะเนี่ยเราสามารถมองเห็น เห็นดาวได้แม้กระทั่งตาเปล่า เปิดใช้กล้องก็จะเห็นชัด แล้วผมว่าอันนี้มันเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างที่จะ Where สำหรับคนเมือง ดังนั้นรีสอร์ทเขาก็รู้ว่าอันนี้มันเป็นสิ่งที่พิเศษก็เลยลงทุนกับ 80 เดินผ่านเข้ามาอีกนิดนึงนะครับจะเจอกับห้องอาหาร อาหาร The dining Room ร้านอาหารนี้จะเป็นจุดที่เขาใช้เสิร์ฟอาหาร บรรยากาศก็จะต้องมาเป็นแนวแบบฟิชเชอร์แมนวิลเลจ มีอีกอย่างหนึ่ง เรื่องที่อยากจะเล่าให้ฟัง ทรัพยากรธรรม เขาซีเรียสมากๆ ยำผักสลัดที่เขาเสิร์ฟ คือเขาปลูกเองนะทุกคนมีฟาร์มผัก ของตัวเองอาหารทะเลเนี่ยเขาก็จับเองนะครับ น้ำเปล่าเขาก็ทำเองนะครับแม้แต่ sparkling Water ยังอัดแก๊สเองเลย นอกจากนั้นเขายังมีเรื่องการจัดการของเสีย ที่ทำเอง เมื่อเขาทำทั้งหมด ครบจบในทุกคน มันจะเกิดระบบนิเวศภายใน ที่มันไม่ต้องไปพึ่งพาทรัพยากรธรรม ข้างนอกนะครับ ดังนั้นนี่แหละ คือ Eco friendly ที่แท้ แน่นอกจากที่พูดมาทั้งหมด ไปหาภายในโรงแรมยังมีแอร์ City อื่นๆ อีกเยอะแยะมากมายเลยนะ ซึ่งผมจะยกตัวอย่างให้ฟังนะ ที่นี่จะมี เด่นจะเป็นสนามเด็กเล่นนะฮะ Zenfone Playground ให้เด็กมาวิ่งเล่นได้ซึ่งเขาจะทำเป็นเหมือนกับแบบเป็นฐานทัพลับของเด็ก เด็กอะไรแบบนี้นะ อันที่ 2 คือ Cinema พาราดิโซ ซึ่งจะเป็น โรงหนังกลางแปลงทุกคนแล้วก็เขาจะเปิดช่วงตอนไหน กลางคืนนะ สามารถมา นั่งดูหนังในบรรยากาศที่มันโรแมนติก มันติดได้แล้วสุดท้ายก็คือจุดที่ผมอยู่ตรงนี้ก็คือสปา นะครับก็จะเป็น Wellness Center ของตัวโรงแรมซึ่งเขาให้ความสำคัญ พื้นที่ตรงนี้ใหญ่มากๆนะคะสามารถมาสปามาออกกำลังกายโยคะรับฟิตเนสเลยดังๆได้ แล้วก็จะมีจุดที่สามารถมองเห็นวิวทะเล ต่อไปนะครับทุกคน ผมจะพาทุกคนไปดูพื้นที่ ของโซน Villa ก็คือห้องพักของ ของที่นี่กันบ้างนะ ระหว่างทางที่เราไปเนี่ย เราจะต้องนั่งรถบักกี้นี้เข้าไปนะ ขายรถกอล์ฟ นะครับเพราะว่าวิลล่าแต่ละอัน อยู่ห่าง ระหว่างทางคือมันจะเป็นพื้นที่แบบเป็นป่าเลยอ่ะทุกคนคือตอนคืนนี้จะปิดไฟมืดหมดเลยนะแทบจะมองไม่เห็น พื้นที่มันเป็นป่าจริงๆคือเขาพยายามจะรักษาสภาพธรรมชาติของ เอาไว้ให้เร็วที่สุดนะครับ จะได้ยินเสียงแมลงอย่างที่ทุกคนได้ยิน แล้วก็ตัวที่พักของที่นี่มีเริ่มต้นตั้งแต่ขนาด 1 ห้องนอนนะครับพื้นที่ประมาณ 450 ตาราง ตารางเมตรราคาเริ่มต้นประมาณซัก 4 หมื่นกว่าบาท ไปจนถึงห้องวิลล่าแบบ 6 ห้องนอนพื้นที่แบบ 30 ตารางเมตรคือประมาณสัก 500 ก็มีแล้วแต่ว่าสมาชิกที่มาเนี่ย จะมีกี่คน เขาก็จะมีห้องให้เลือกหลากหลายแบบ วิลล่าหลังที่ผมจะพาทุกคนมาดูนี้นะครับ เป็นวิลล่าเบอร์ เป็นวิลล่าที่ใหญ่ที่สุด ในโรงแรม แอมนะครับทางเดินที่ผมเดินอยู่ตรงนี้เป็นแค่ทางเข้านะฮะนี่เรากำลังจะเดินเข้าสู่พื้นที่ของวิลล่าและ วิลล่าแห่งนี้ครับเป็นวิลล่าขนาด 6 ห้องนอน คนพื้นที่ 2928 ตารางเมตรซึ่งมีขนาดใหญ่มากๆเลยนะฮะ ราคาห้องพักคืนเดียวอยู่ที่คืนละ 50,000 บาท นอน 2 คืนก็ประมาณล้านนึงแล้วนะ ทุกคนแล้วก็เวลาเราเดินเข้ามานะครับ เราจะพบกับเธอ พื้นที่ Common area ที่มันใหญ่ นะครับแล้วก็มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่นะฮะ เวลาเราว่ายน้ำ เราจะมองเห็น เห็นวิวทะเลยัง ตัวบ้านหลังนี้ความพิเศษของเขาเลย มันเป็นบ้านที่ถูกยกสูงขึ้นมา เพราะว่าข้างล่างจริงมัน แต่พอถูกยกสูงขึ้นมาปุ๊บเนี่ยพื้นที่ของบ้าน มันจะสามารถมองข้ามยอดไม้บริเวณนี้นะฮะเห็นทะเลอย่างชัดเจนแล้วก็ฝั่งนี้เป็นทิศตะวันตกด้วย งั้นก็จะสามารถ ชมตะวัน ไปรษณีย์ที่อยู่ด้านข้างของตัวสระว่ายน้ำเนี่ยก็จะมี Sunday นับเป็นพื้นที่นอนอาบแดดเรียงกันฮะ พื้นที่ตรงนี้สามารถบรรจุคนได้ 100 คนผมว่าบ้านยังดูหลวมเลยอ่ะทุกคนแล้วก็ข้างหลังตรงนี้ จะมีสั่งเข้มสีนะครับเป็นเหมือนกับพื้นที่นั่งปาร์ตี้ Outdoor ช่วงพระอาทิตย์ตกที่ให้แบบมานั่งจิบแชมเปญ Android Pie ผิดกันได้ แล้วเดินเข้ามาด้านในนะครับ Indoor ก็จะมีโต๊ะรับประทานอาหาร อาหารที่วางอยู่ประมาณสัก 10 ที่นั่งให้สามารถมานั่งกินข้าวแบบพ่อเพิ่มขึ้นมาได้นะ ด้านข้างจะมีแพลนฟรีมีห้องครัวที่สามารถจัดเตรียมอาหาร อาหารได้ครึ่งทางกันไม่พอนะทุกคน ชั้น 2 นะ เขาจะมี Living area อีกชุดนึงนะครับที่สามารถขึ้นไปนั่งลง ข้างบนเนี่ยก็สามารถมองเห็นวิวทะเลได้สวย เหมือนกันนะฮะ คือเขาทำทั้งหมดนี้เผื่อไว้ว่าเราจะมีแขกมากัน รวมรวมกันหลายกลุ่ม มีแบบ 2 บ้าน 2 ครอบครัวบ้างหรือบางทีแบบ แก๊งคุณพ่อคุณแม่แก๊งนึงแก๊งลูกอีกแก๊งนึงอยู่ข้างบนก็สามารถทำได้นะครับแล้วก็ภายในบ้านเนี่ย ยังมีห้องอเนกประสงค์ อีกเยอะแยะมากมายเลยนะครับ ที่เขาจะเตรียมเอาไว้เผื่อว่าเราจะปรับเป็นฟังก์ชันอื่น มีทั้งห้อง Game room พื้นที่ทำสปามีร้านบาร์บีคิวซึ่งพื้นที่ทั้งหมดมันยังเหลืออีกเยอะ เยอะมากเลยนะครับจัดเฟอร์นิเจอร์แบบหรูๆเลยเพื่อให้คนที่มาพักผ่อน จะได้ไม่รู้สึกแบบฝึกหัด ภายในวิลล่าแห่งนี้ทุกคนเขาจะมีห้องนอนอยู่ 6 ห้องใช่ไหมครับซึ่งแต่ละห้องเนี่ยมันเหมือนกับเป็นบ้านเล็กๆที่ซ่อน อยู่ในบ้านหลังใหญ่อีกทีนึงนะครับแล้วก็ยังตรงจุดที่ผมอยู่ตรงนี้จะเป็นเหมือนกับบ้านหลังหนึ่งใช่ไหมที่มีห้องนอนอยู่ อยู่ข้างล่างอยู่นิดนึง แล้วก็ข้างบนมีอีกอยู่นิดนึง ทุกห้องเลยจะสามารถมองเห็น เห็นวิวทะเลได้เหมือน แล้วก็ขนาดนี้ ฝืนขี้หมาใหญ่ แต่มันจะมีห้องพิเศษซึ่งจะเป็นห้อง Master Bedroom อีกฝั่งนึงด้วย เดี๋ยวเขาพาไปดู ตัวห้องมาซะ Bedroom เนี่ยทุกคนมันจะเป็นห้องนอนพิเศษนะครับที่จะมีระเบียงส่วนตัวของตัวเองนะฮะ เวลาเดินออกมาปุ๊บจะเจอสระน้ำส่วนตัวของตัวเองด้วยนะฮะซึ่งจะนี้จะแยกกับสระอันใหญ่ แล้วก็มีความพิเศษอีกคือจะมีสไลเดอร์ส่วนตัวนะครับ สไลเดอร์เนี่ยจะเป็นหนึ่งใน ฟีเจอร์ของบ้านของ soniya ทุกๆที่เลยนะครับว่า ถ้ามีสไลเดอร์เนี้ยมันจะแบบเป็นเอกลักษณ์ของโซเนวา แล้วเวลาเราเดินออกมาตรงนี้มันก็สามารถมานั่งเล่น ตรงนี้ได้แล้วก็มองเห็นวิวทั้งหมด 2 ตัวบนล่าง แล้วนอกจากนั้นเนี่ย ตัว Master Bedroom เนี่ย กรณีที่มากันเป็นครอบครัวแล้วเป็นผู้ใหญ่ที่มีเด็กนะฮะ เด็กๆสามารถนอนบ้านหลังเล็กที่อยู่ติดกัน Free House ได้นะครับ Free House เปิดประตูออกมาปุ๊บจะกระโดดลงสไลเดอร์ได้ Ok ครับทุกคนตอนนี้เราก็เดินชมรีสอร์ทจนทั่วเลยนะครับ เลข 1 จุดที่ยังไม่ได้พามาดูนะคะก็คือตรงจุดที่ผมนั่งอยู่นะครับ ซึ่งตอนนี้เขาจะเรียกว่า Not Beach Not Beach เป็นหาดอีกจุดหนึ่งที่อยู่ ห้างมาจากตัวรีสอร์ทน่าจะต้องนั่งเรือมา เป็นหาดส่วนตัวเล็กๆนะที่มุมตรงนี้สวยมากเลยเพราะว่าจะเป็นจุดที่มองเห็น พระอาทิตย์ตกดินด้วยนะครับแล้วก็หาดทรายตรงนี้ เป็นทรายสีขาวแล้วก็นุ่มละเอียดมากๆเลย นะครับน่ามาเล่นน้ำ ตอนกลางวัน เขาบอกว่าน้ำตรงนี้จะใสมาก ในช่วงเวลาที่เป็นแบบ ช่วงเทศกาลหรืออะไรพวกเนี้ยเขาจะมีการจัดอีเว้นท์ตรงนี้ด้วยนะครับช่วงปีใหม่ช่วงอะไร จากการที่ได้ดู โซเนวาคีรีทั้งหมดนะ ผมอยากจะบอกว่าที่นี่ประสบการณ์มันแตกต่างมากเลย แล้วก็มันมีรายละเอียด Detail อีกเยอะแยะมากๆที่ผมไม่สามารถเล่าทั้งหมดให้ทุกคนฟัง ไม่เคยได้นะ ผมอยากจะบอกว่าจุดประสงค์หลักอันนึงที่เขาทำทั้งหมดเนี่ย เขาเพื่อต้องการที่จะ ผมใช้คำว่าดีฟายคำว่า luxury ขึ้นมาใหม่ คือรักมีของเสน่ห์ว่าไม่ใช่การตกแต่งสถานที่ที่อลังการไม่ใช่การใช้วัสดุ หายากไม่ใช่การกินของแพงๆ หรือว่าการอยู่อย่างราชาอะไร แต่คำว่ารักที่แท้จริงของ sonia มันคือความรู้ครับ มันคือประสบการณ์ที่ เราได้มาสัมผัสในสถาน สถานที่นานๆ ได้เรียนรู้ถึงบริบทของมันได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่โดยปกติแล้วอ่ะเงินมันไม่สามารถซื้อได้ มันจะต้อง มาแล้วก็สัมผัสด้วยตัวเรา เป้าหมายสูงสุดของเขาจริงๆอ่ะ มันคือเพื่อให้เราดิ ได้มาอยู่กับตัวเองได้มาอยู่กับ ธรรมชาติ แล้วก็ได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของมันแล้วก็เห็นคุณค่าที่จะปกป้องมัน แล้วเขาเลือกที่จะบอก Message เหล่านี้ ไปยังกลุ่มคนที่มีอยู่เพียงแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์บนโลกที่สามารถ afford สิ่งเหล่านี้ได้ เพื่อที่จะให้คนกลุ่มนี้ เด็กเกิดไร้ใจออกมาแล้วไปปกป้องธรรมชาติด้วยมือของเขาอีกทีนึง แล้ววันนี้ต้องขอขอบคุณทางโซเนวามากๆนะที่ให้ผมแล้วก็ทีมงานนะครับได้มีโอกาสเอาเรื่องราวดีๆของเขามา มาถ่ายทอดให้ทุกคนฟัง ตอนหน้าจะพาไปที่ไหนอีก ต้องกดติดตาม วันนี้บุณฑริกต้องขอลาไปก่อน