รีวิวห้องพักโรงแรมพรมพิมาน ใกล้สถานีรถไฟศรีสะเกษ

โรงแรมพรมพิมานเป็นหนึ่งในโรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟศรีสะเกษ ที่นี่เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีความต้องการในการเข้าพักในที่อยู่ที่สะดวกสบายและมีความเป็นส่วนตัว ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับโรงแรมพรมพิมาน รวมถึงบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่มีอยู่ อ่านต่อเพื่อค้นหาข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับห้องพักและประสบการณ์ที่น่าสนใจที่คุณสามารถได้รับจากโรงแรมพรมพิมาน.

รีวิวห้องพักโรงแรมพรมพิมาน ใกล้สถานีรถไฟศรีสะเกษ - YouTube

โรงแรมพรมพิมานตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบายในเขตเมืองศรีสะเกษ และมีการเชื่อมต่อสะดวกสบายถึงสถานีรถไฟศรีสะเกษ ทำให้การเดินทางมาถึงและออกจากโรงแรมเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้เข้าพัก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางมาเพื่อท่องเที่ยวหรือเป็นการเดินทางเพื่อเข้ารับการประชุมหรืองานที่จัดในพื้นที่เมืองศรีสะเกษ

ตัวเลือกห้องและคุณสมบัติ

โรงแรมพรหมพิมาน - ศรีสะเกษ - เริ่มต้นที่ ฿500 - รีวิว แผนที่

โรงแรมพรมพิมานมีห้องพักที่มาพร้อมกับความสะดวกสบายและสิ่งอำนวยความสะดวกที่คุณต้องการ โดยมีห้องพักหลากหลายประเภทที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้เข้าพักทุกระดับ ตั้งแต่ห้องพักประหยัดกระเป๋า ไปจนถึงห้องพักหรูหราที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น อินเตอร์เน็ตไร้สายฟรี โทรทัศน์จอแบน และระบบปรับอากาศ เพื่อให้ผู้เข้าพักมีความสะดวกสบายในระหว่างการเข้าพัก

สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการ

โรงแรมพรหมพิมาน - ศรีสะเกษ - เริ่มต้นที่ ฿500 - รีวิว แผนที่

โรงแรมพรมพิมานมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายที่จะทำให้การเข้าพักของคุณเป็นที่จดจำ ภายในโรงแรมคุณสามารถเพลิดเพลินกับสระว่ายน้ำส่วนตัวหรือออกกำลังกายในฟิตเนส นอกจากนี้ยังมีสปาและสวนบริเวณใกล้เคียงที่คุณสามารถผ่อนคลายและรับสมาธิกลางความเงียบสงบของธรรมชาติได้

ประสบการณ์การรับประทานอาหารและการทำอาหาร

โรงแรมพรหมพิมาน - ศรีสะเกษ - เริ่มต้นที่ ฿500 - รีวิว แผนที่

สำหรับคนที่หิวลุยหลังจากการเดินทางหรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำในวันนั้น โรงแรมพรมพิมานมีร้านอาหารและร้านกาแฟที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มอร่อย โดยทีมครัวมีความเชี่ยวชาญในการเตรียมอาหารไทยและอาหารสากล คุณจะได้ลิ้มรสอาหารที่อร่อยและสดใหม่ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง

การให้คะแนนสถานที่ใกล้เคียง

โรงแรมพรหมพิมาน, ศรีสะเกษ | HotelsCombined

โรงแรมพรมพิมานตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายที่น่าสนใจในเขตเมืองศรีสะเกษ คุณสามารถเดินทางไปเยี่ยมชมวัดสำคัญในพื้นที่ สำรวจศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น หรือสัมผัสกับสวนสัตว์และพื้นที่ธรรมชาติที่งดงาม ที่นี่คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวที่น่าประทับใจและทำให้คุณพบกับทริปที่แสนจะน่าเรียนรู้

ความคิดเห็นของลูกค้าและการให้คะแนน

โรงแรมพรหมพิมาน - ศรีสะเกษ - เริ่มต้นที่ ฿500 - รีวิว แผนที่

โรงแรมพรมพิมานได้รับความนิยมจากผู้เข้าพักมากมาย ผู้เข้าพักยังมีคำติชมเกี่ยวกับบริการที่ดีและบรรยากาศที่น่ารักในโรงแรม รีวิวและคะแนนจากลูกค้าก่อนหน้านี้ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าการเลือกพักที่โรงแรมพรมพิมานคือการเลือกที่ถูกต้อง

บทสรุป

โรงแรมพรหมพิมาน , ศรีสะเกษ - Prompiman Hotel

โรงแรมพรมพิมานใกล้สถานีรถไฟศรีสะเกษเป็นที่พักที่มีความสะดวกสบายและเป็นส่วนตัว ห้องพักที่หลากหลายและคุณภาพ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน คุณสามารถเพลิดเพลินกับสิ่งที่โรงแรมนี้มีให้ ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสกับบรรยากาศของเมืองศรีสะเกษ หรือการพักผ่อนในห้องพักที่สะดวกสบาย และอย่าลืมลองสัมผัสกับความอร่อยของอาหารที่ร้านอาหารภายในโรงแรมด้วย

FAQs

  1. Q: โรงแรมพรมพิมานมีบริการอินเตอร์เน็ตไร้สายหรือไม่? A: ใช่, โรงแรมพรมพิมานมีบริการอินเตอร์เน็ตไร้สายให้แก่ผู้เข้าพักฟรี
  2. Q: โรงแรมพรมพิมานมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการออกกำลังกายหรือไม่? A: ใช่, โรงแรมพรมพิมานมีฟิตเนสที่ให้บริการให้แก่ผู้เข้าพัก
  3. Q: การเข้าถึงสถานีรถไฟศรีสะเกษมีความสะดวกหรือไม่? A: ใช่, โรงแรมพรมพิมานตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟศรีสะเกษ การเดินทางไปถึงสถานีรถไฟมีความสะดวกและง่ายดาย
  4. Q: โรงแรมพรมพิมานใกล้สถานที่ท่องเที่ยวใดบ้าง? A: โรงแรมพรมพิมานตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น วัดเด่นในพื้นที่และสวนสัตว์
  5. Q: มีบริการร้านอาหารและกาแฟในโรงแรมพรมพิมานหรือไม่? A: ใช่, โรงแรมพรมพิมานมีร้านอาหารและร้านกาแฟให้บริการอาหารและเครื่องดื่มที่อร่อยและหลากหลาย

รีวิวห้องพักโรงแรมพรมพิมาน ใกล้สถานีรถไฟศรีสะเกษ [VIDEO]

 

เนื้อหาของวิดีโอ รีวิวห้องพักโรงแรมพรมพิมาน ใกล้สถานีรถไฟศรีสะเกษ

นี่ถือเป็นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นอีกครั้งหนึ่ง รักครั้งนี้ จะได้มาเปิดเส้นทางใหม่ๆของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีชื่อว่า เวียงแหงอำเภอเวียงแหงเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่ไม่ควรพลาดเลยเพราะที่นี่ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายซ่อนอยู่อย่างลับลับให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆต้องไปค้นหา Adobe ก็จะเป็นที่แห่งแรกที่เราจะไปค้นหาจากเส้นทางนี้กันค่ะ กำแพงตรงหน้าที่เรากำลังจะขับผ่านบงบอกว่าเรากำลังมุ่งหน้าเข้าสู่หมู่บ้านเรางู ซึ่งจะมีคำติดปากที่ว่าเราประตูสู่เวียงแหงนั่นเองค่ะ กำลังรอขึ้นรถอยู่ค่ะ ตอนนี้เราก็ถึงจุดนัดพบกันแล้วค่ะทุกคนแดดค่อนข้างแรงเลยซึ่งเราจะจอดรถไว้ตรงนี้ ไปกับรถของทางที่พักค่ะ ตรงนี้ที่เรายืนรอรถอยู่ จะเป็นด้านหน้าหมู่บ้านเลาวู ไปหมู่บ้านรอยต่อกับอำเภอเชียงดาว อยู่บนความ สูงประมาณ 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเลและยังเป็นดินแดนที่ถูก ภูเขาโอบล้อม กับชายแดนไทยเมียนมาร์อีกด้วย ผ้าซักพักก็ออกเดินทางขึ้นไปจุดกางเต็นท์เนื่องจากทางที่ไปเป็นถนนแคบ แล้วด้านบนไม่มีลานจอดรถให้ อันตรายเราถึงต้องไปกลับรถของชาวบ้านที่มีความชำนาญกว่าค่ะ แต่ถ้าใครขับรถมอเตอร์ไซค์มาก็สามารถขับ ตัวเองได้เลยนะคะแต่ต้องขับอย่างระมัดระวังด้วย การเดินทางครั้งนี้เราก็ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ถึงหมู่บ้านเราประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที แต่ถ้าใครไม่คุ้นเคยเส้นทางแนะนำให้เผื่อเวลาสัก 30 นาทีนะคะเพราะรถจะลงมารับเราในเวลาบ่าย 15:00 น ตรง การรับส่งตรงนี้จะไม่มีค่าใช้จ่ายทั้งขาไปและขากลับค่ะเพราะว่าค่ารถจะรวมอยู่กับค่าที่พักของ เมาแล้ว ทุกคนสงสัยว่าทำไมค่ากางเกงถึงได้แพงจังแต่ถ้าหากเรามาสายเราก็ต้องจ่ายค่ารับส่ง ที่ราคา 200 บาทค่ะ และคนที่สายก็ไม่ใช่ใคร เป็นเรานั่นเอง แต่โชคดีที่มีเพื่อนร่วมทางที่มาสายด้วยกันอีกคู่นึงแล้วก็เลยห่างกันคู่ละ 100 บาทค่ะ Try To Be เป็นภาษาลีซอหรือลีซู แปลเป็นภาษาไทยหมายถึง ที่ดินกาวหรือที่ตั้งถิ่นฐานเก่า ไม่ใช่แล้วค่ะ จุดชมวิวที่เรากำลังขึ้นไปกางเต็นท์นั้นเคยเป็นพื้นที่ตั้งเก่าของหมู่บ้านเรางู น้องหมาเป็นมิตรมากเลย เราเห็นจาก เวลาคนมาถ่ายคลิป ที่นี่จะมีน้องอยู่ด้วยตลอด ดูท่านอนสิดูก็รู้ว่าน้องฟิล์มกับธรรมชาติของที่นี่แค่ไหน การนำเต็นท์มากางเองค่าใช้จ่ายในการนำเต็นท์มากางเองจะอยู่ที่คนละ 250 แต่ถ้าหากใครไม่มีเต็นท์ ก็จะมีเซนส์ของทางที่พักให้เช่า ในราคา 1 คน 400 บาทต่อ 1 เต็นท์ โอน 700 บาทต่อ 1 เต็นท์ค่ะ และที่นี่ก็จะ จะมีห้องน้ำ 2 ห้อง เฮียชาย 1 หญิง 1 ด้วย นี่คือวิวดอยหลวงเชียงดาว ที่สามารถมองเห็นได้ง่ายๆแต่จุดกางเต็นท์ของเราเลย เรามาช่วงหน้าหนาวบรรยากาศ ก็จะดูแห้งๆนิดนึง แต่เมื่อแสงกระทบกับดอกหญ้าทุกอย่างก็จะดูเข้ากันได้ดี ตอนนี้อากาศกำลังดีมีลมโชยมาอยู่ตลอด ฤดูหนาวแบบนี้ก็ต้องคู่กับดอกหญ้าสีทอง ซึ่งบริเวณนี้ก็มีเยอะมากเลยทีเดียว กินกับบรรยากาศแบบนี้มากๆ บรรยากาศช่วงเดือนธันวาคม เป็นเดือนที่เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ ไหนยังเป็นเดือนเกิดของเราด้วย มันก็เลยพี่ ขึ้นไปอีก ดูสิ ขนาดแมลงนกน้อยดูมีความสุขในฤดูนี้เลย เราก็ไป ไม่ได้ว่าเจ้ามีความสุข แค่ไหน ที่ได้มาสัมผัสที่แห่งนี้ด้วยตัวเอง ตอนนี้เรากำลัง ดินเนอร์กันที่เนินเขาลูกหนึ่ง ถ้ามีชาวบ้านคนนึงแนะนำให้เราขึ้นมาชมวิวพระอาทิตย์ วันนั้นเขานี้ เขาบอกว่า เราสามารถเดินชม ชมวิวได้ทั่วเลย เราก็ไม่ดีหรอก เขาอยากรู้ว่าบิลด้านบนมันจะสวยแค่ไหน จะต่างกับด้านล่างไหม เรามาถึงด้วยความเหนื่อย ก็นั่งดินเนอร์ท่ามกลางดอกหญ้ากันก่อนเลย ตอนกลับถึงทรัพย์วิวใหม่ๆตรงหน้านี้ The Mall วันก่อนเรียนกัน แสงแดด ที่กำลังสาดส่อง ก้อนเมฆสะท้อนแสง มีความสุข พระจันทร์ กำลังขึ้น แปลภาษา นี่กำลังตก กับสิ่งที่เราได้เห็นด้วยตาเปล่า ไม่อยากถ่ายทอดให้พวกแกได้เห็นเช่นกัน เราตัดสินใจรีบวิ่งลงจากเขาลูกนี้ ไปชมพระอาทิตย์ตกด้านล่างก็คิดว่ามันน่าจะมองเห็นได้ชัดกว่า เพราะตกหลุมรักที่นี่ต้องเที่ยวระหว่างทางที่เรากำลังเดินผ่านมันเป็นห่วง เขาที่สวยงามมาก มากเราจำความได้ว่า เคยเห็นมีแบบนี้แค่ในการ์ตูนหรือในภาพยนตร์แต่ไม่เคยเจอกับตาตัวเองแบบนี้เลย การนั่งรอ ตอบพร้อมกับน้องหมาแสนรู้ ที่มีกล้ามขาเป็นมัดมัด น้องคงชำนาญเส้นทางน่าดู และแล้วพระอาทิตย์ อาทิตย์ที่เรารอคอย ก็กำลังค่อยๆเลื่อนผ่านเมฆลงสู่สันเขาเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความรู้สึก ที่ว่า หมดไปแล้วสินะ อีก 1 วัน เมื่อตะวันลับขอบฟ้า แล้วก็เดินกลับจุดกางเต็นท์และเก็บความทรงจำของเราทั้งคู่เอาไว้ ก่อนนอนเราก็ต้มมาม่าประทังท้องกันไว้ก่อนเผื่อจะหิวกลางดึก แล้วเหมือนว่าพ่อตรงข้ามหนมก็แดงมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับความหนาวเหน็บในคืนนี้ ร้านๆๆ กิจกรรมของที่นี่ที่ขาดไม่ได้เลย การถ่ายภาพหมู่ดาวจะได้ภาพดวงดาวที่ไม่ได้ชัดมากนะ ด้วยแสงสว่างของพระเจ้าที่ส่งลงมา รวมถึงก้อนเมฆที่ค่อยๆบดบังดวงดาวอย่างช้าๆส่วนใหญ่ก็เลยออกมาอย่างที่เห็นแต่เมื่อ เห็นภาพทะเลดาวคู่กับดอยหลวงเชียงดาวแบบนี้ท่านี้ คืนนี้ก็หลับฝันดีแล้วล่ะ มาไหม เหมือนว่าพระอาทิตย์เพิ่งตกลงไปเองแต่เราก็ตื่นมาเฝ้ารอพระอาทิตย์ ขึ้นอีกครั้ง เป็นกิจกรรมที่เรียบง่าย แต่ไม่ง่ายเลยกับการที่ต้อง ตื่นเช้ามาพร้อมกับอากาศหนาวที่มีอุณหภูมิ 10 กว่าองศาแบบนี้ แส เมื่อพระอาทิตย์ ที่เพิ่งตกไปเมื่อวานได้โผล่ขึ้นมาใหม่ เราก็คงต้องกล่าวออกไปว่า สวัสดีเช้าวันใหม่ ขอให้เป็นวันที่ดีนะ การเดินถ่ายรูปรอบๆเพื่อเก็บบรรยากาศที่เราไม่ได้มาบ่อยๆ คิดดูนะเจ้าเดินทางมาไกลหลายร้อยกิโลเมตร และใช้เวลายาวนานหลายชั่วโมงกว่าจะมาถึงที่นี่ถ้าเก็บไว้ได้เพียงแค่ความทรงจำก็คงจะเสีย การให้เก็บภาพเหล่านี้ซึ่งเป็นความทรงจำและเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวได้ดีที่สุดยังไง เอาล่ะตอนนี้ก็ได้เวลาเตรียมตัวออกจากสวรรค์แห่งนี้แล้วพูดแล้วก็เศร้าแต่เราจะกลับมาใหม่อีก แน่นอนไหมช่วงปลายฝนต้นหนาวในสัญญาเลยก็ครั้งหน้าเราจะต้องเอาทะเลหมอกมาฝากพวกแก ขอให้ได้ขอให้พวกแกเต็มอิ่มขับอยู่ระหว่างทางต่อไปนี้นะบ๊ายบาย
นี่ถือเป็นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นอีกครั้งหนึ่ง รักครั้งนี้ จะได้มาเปิดเส้นทางใหม่ๆของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีชื่อว่า เวียงแหงอำเภอเวียงแหงเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่ไม่ควรพลาดเลยเพราะที่นี่ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายซ่อนอยู่อย่างลับลับให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆต้องไปค้นหา Adobe ก็จะเป็นที่แห่งแรกที่เราจะไปค้นหาจากเส้นทางนี้กันค่ะ กำแพงตรงหน้าที่เรากำลังจะขับผ่านบงบอกว่าเรากำลังมุ่งหน้าเข้าสู่หมู่บ้านเรางู ซึ่งจะมีคำติดปากที่ว่าเราประตูสู่เวียงแหงนั่นเองค่ะ กำลังรอขึ้นรถอยู่ค่ะ ตอนนี้เราก็ถึงจุดนัดพบกันแล้วค่ะทุกคนแดดค่อนข้างแรงเลยซึ่งเราจะจอดรถไว้ตรงนี้ ไปกับรถของทางที่พักค่ะ ตรงนี้ที่เรายืนรอรถอยู่ จะเป็นด้านหน้าหมู่บ้านเลาวู ไปหมู่บ้านรอยต่อกับอำเภอเชียงดาว อยู่บนความ สูงประมาณ 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเลและยังเป็นดินแดนที่ถูก ภูเขาโอบล้อม กับชายแดนไทยเมียนมาร์อีกด้วย ผ้าซักพักก็ออกเดินทางขึ้นไปจุดกางเต็นท์เนื่องจากทางที่ไปเป็นถนนแคบ แล้วด้านบนไม่มีลานจอดรถให้ อันตรายเราถึงต้องไปกลับรถของชาวบ้านที่มีความชำนาญกว่าค่ะ แต่ถ้าใครขับรถมอเตอร์ไซค์มาก็สามารถขับ ตัวเองได้เลยนะคะแต่ต้องขับอย่างระมัดระวังด้วย การเดินทางครั้งนี้เราก็ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ถึงหมู่บ้านเราประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที แต่ถ้าใครไม่คุ้นเคยเส้นทางแนะนำให้เผื่อเวลาสัก 30 นาทีนะคะเพราะรถจะลงมารับเราในเวลาบ่าย 15:00 น ตรง การรับส่งตรงนี้จะไม่มีค่าใช้จ่ายทั้งขาไปและขากลับค่ะเพราะว่าค่ารถจะรวมอยู่กับค่าที่พักของ เมาแล้ว ทุกคนสงสัยว่าทำไมค่ากางเกงถึงได้แพงจังแต่ถ้าหากเรามาสายเราก็ต้องจ่ายค่ารับส่ง ที่ราคา 200 บาทค่ะ และคนที่สายก็ไม่ใช่ใคร เป็นเรานั่นเอง แต่โชคดีที่มีเพื่อนร่วมทางที่มาสายด้วยกันอีกคู่นึงแล้วก็เลยห่างกันคู่ละ 100 บาทค่ะ Try To Be เป็นภาษาลีซอหรือลีซู แปลเป็นภาษาไทยหมายถึง ที่ดินกาวหรือที่ตั้งถิ่นฐานเก่า ไม่ใช่แล้วค่ะ จุดชมวิวที่เรากำลังขึ้นไปกางเต็นท์นั้นเคยเป็นพื้นที่ตั้งเก่าของหมู่บ้านเรางู น้องหมาเป็นมิตรมากเลย เราเห็นจาก เวลาคนมาถ่ายคลิป ที่นี่จะมีน้องอยู่ด้วยตลอด ดูท่านอนสิดูก็รู้ว่าน้องฟิล์มกับธรรมชาติของที่นี่แค่ไหน การนำเต็นท์มากางเองค่าใช้จ่ายในการนำเต็นท์มากางเองจะอยู่ที่คนละ 250 แต่ถ้าหากใครไม่มีเต็นท์ ก็จะมีเซนส์ของทางที่พักให้เช่า ในราคา 1 คน 400 บาทต่อ 1 เต็นท์ โอน 700 บาทต่อ 1 เต็นท์ค่ะ และที่นี่ก็จะ จะมีห้องน้ำ 2 ห้อง เฮียชาย 1 หญิง 1 ด้วย นี่คือวิวดอยหลวงเชียงดาว ที่สามารถมองเห็นได้ง่ายๆแต่จุดกางเต็นท์ของเราเลย เรามาช่วงหน้าหนาวบรรยากาศ ก็จะดูแห้งๆนิดนึง แต่เมื่อแสงกระทบกับดอกหญ้าทุกอย่างก็จะดูเข้ากันได้ดี ตอนนี้อากาศกำลังดีมีลมโชยมาอยู่ตลอด ฤดูหนาวแบบนี้ก็ต้องคู่กับดอกหญ้าสีทอง ซึ่งบริเวณนี้ก็มีเยอะมากเลยทีเดียว กินกับบรรยากาศแบบนี้มากๆ บรรยากาศช่วงเดือนธันวาคม เป็นเดือนที่เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ ไหนยังเป็นเดือนเกิดของเราด้วย มันก็เลยพี่ ขึ้นไปอีก ดูสิ ขนาดแมลงนกน้อยดูมีความสุขในฤดูนี้เลย เราก็ไป ไม่ได้ว่าเจ้ามีความสุข แค่ไหน ที่ได้มาสัมผัสที่แห่งนี้ด้วยตัวเอง ตอนนี้เรากำลัง ดินเนอร์กันที่เนินเขาลูกหนึ่ง ถ้ามีชาวบ้านคนนึงแนะนำให้เราขึ้นมาชมวิวพระอาทิตย์ วันนั้นเขานี้ เขาบอกว่า เราสามารถเดินชม ชมวิวได้ทั่วเลย เราก็ไม่ดีหรอก เขาอยากรู้ว่าบิลด้านบนมันจะสวยแค่ไหน จะต่างกับด้านล่างไหม เรามาถึงด้วยความเหนื่อย ก็นั่งดินเนอร์ท่ามกลางดอกหญ้ากันก่อนเลย ตอนกลับถึงทรัพย์วิวใหม่ๆตรงหน้านี้ The Mall วันก่อนเรียนกัน แสงแดด ที่กำลังสาดส่อง ก้อนเมฆสะท้อนแสง มีความสุข พระจันทร์ กำลังขึ้น แปลภาษา นี่กำลังตก กับสิ่งที่เราได้เห็นด้วยตาเปล่า ไม่อยากถ่ายทอดให้พวกแกได้เห็นเช่นกัน เราตัดสินใจรีบวิ่งลงจากเขาลูกนี้ ไปชมพระอาทิตย์ตกด้านล่างก็คิดว่ามันน่าจะมองเห็นได้ชัดกว่า เพราะตกหลุมรักที่นี่ต้องเที่ยวระหว่างทางที่เรากำลังเดินผ่านมันเป็นห่วง เขาที่สวยงามมาก มากเราจำความได้ว่า เคยเห็นมีแบบนี้แค่ในการ์ตูนหรือในภาพยนตร์แต่ไม่เคยเจอกับตาตัวเองแบบนี้เลย การนั่งรอ ตอบพร้อมกับน้องหมาแสนรู้ ที่มีกล้ามขาเป็นมัดมัด น้องคงชำนาญเส้นทางน่าดู และแล้วพระอาทิตย์ อาทิตย์ที่เรารอคอย ก็กำลังค่อยๆเลื่อนผ่านเมฆลงสู่สันเขาเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความรู้สึก ที่ว่า หมดไปแล้วสินะ อีก 1 วัน เมื่อตะวันลับขอบฟ้า แล้วก็เดินกลับจุดกางเต็นท์และเก็บความทรงจำของเราทั้งคู่เอาไว้ ก่อนนอนเราก็ต้มมาม่าประทังท้องกันไว้ก่อนเผื่อจะหิวกลางดึก แล้วเหมือนว่าพ่อตรงข้ามหนมก็แดงมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับความหนาวเหน็บในคืนนี้ ร้านๆๆ กิจกรรมของที่นี่ที่ขาดไม่ได้เลย การถ่ายภาพหมู่ดาวจะได้ภาพดวงดาวที่ไม่ได้ชัดมากนะ ด้วยแสงสว่างของพระเจ้าที่ส่งลงมา รวมถึงก้อนเมฆที่ค่อยๆบดบังดวงดาวอย่างช้าๆส่วนใหญ่ก็เลยออกมาอย่างที่เห็นแต่เมื่อ เห็นภาพทะเลดาวคู่กับดอยหลวงเชียงดาวแบบนี้ท่านี้ คืนนี้ก็หลับฝันดีแล้วล่ะ มาไหม เหมือนว่าพระอาทิตย์เพิ่งตกลงไปเองแต่เราก็ตื่นมาเฝ้ารอพระอาทิตย์ ขึ้นอีกครั้ง เป็นกิจกรรมที่เรียบง่าย แต่ไม่ง่ายเลยกับการที่ต้อง ตื่นเช้ามาพร้อมกับอากาศหนาวที่มีอุณหภูมิ 10 กว่าองศาแบบนี้ แส เมื่อพระอาทิตย์ ที่เพิ่งตกไปเมื่อวานได้โผล่ขึ้นมาใหม่ เราก็คงต้องกล่าวออกไปว่า สวัสดีเช้าวันใหม่ ขอให้เป็นวันที่ดีนะ การเดินถ่ายรูปรอบๆเพื่อเก็บบรรยากาศที่เราไม่ได้มาบ่อยๆ คิดดูนะเจ้าเดินทางมาไกลหลายร้อยกิโลเมตร และใช้เวลายาวนานหลายชั่วโมงกว่าจะมาถึงที่นี่ถ้าเก็บไว้ได้เพียงแค่ความทรงจำก็คงจะเสีย การให้เก็บภาพเหล่านี้ซึ่งเป็นความทรงจำและเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวได้ดีที่สุดยังไง เอาล่ะตอนนี้ก็ได้เวลาเตรียมตัวออกจากสวรรค์แห่งนี้แล้วพูดแล้วก็เศร้าแต่เราจะกลับมาใหม่อีก แน่นอนไหมช่วงปลายฝนต้นหนาวในสัญญาเลยก็ครั้งหน้าเราจะต้องเอาทะเลหมอกมาฝากพวกแก ขอให้ได้ขอให้พวกแกเต็มอิ่มขับอยู่ระหว่างทางต่อไปนี้นะบ๊ายบาย