“รีสอร์ทสยองขวัญ” คืนหลอนก่อนวันรับปริญญา ณ จังหวัดมหาสารคาม [เล่าเรื่องผี] |เล่าไปหลอนไป EP. 10|

ยามความมืดมิดและความลึกลับปรากฎใน “รีสอร์ทสยองขวัญ” ณ จังหวัดมหาสารคาม นี่คือสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของผีและความลึกลับที่มากมาย ในบทความนี้เราจะนำคุณไปสัมผัสกับความหลอนของ “รีสอร์ทสยองขวัญ” ซึ่งจะทำให้คุณหลงใหลในปริมาณที่ไม่น่าเชื่อได้

Table of Contents

พื้นที่และตำแหน่งของ “รีสอร์ทสยองขวัญ”

"รีสอร์ทสยองขวัญ" คืนหลอนก่อนวันรับปริญญา ณ จังหวัดมหาสารคาม [เล่าเรื่องผี]  |เล่าไปหลอนไป EP. 10| - YouTube

“รีสอร์ทสยองขวัญ” ตั้งอยู่ในจังหวัดมหาสารคามที่ตั้งอยู่ในที่ราบสูงและหนาวเย็นของภาคอีสาน พื้นที่แห่งนี้ครอบคลุมด้วยธรรมชาติที่งดงาม เป็นที่ตั้งที่ลงตัวสำหรับ “รีสอร์ทสยองขวัญ” เนื่องจากมีอากาศหนาวเย็นและแสงจันทร์ที่มากพอที่จะเกิดความหลอนใจ

ตำนานและประวัติของ “รีสอร์ทสยองขวัญ”

พาร์ทไทม์สยองขวัญ" โรงแรมผีดุ! ใน จ.เชียงราย ที่ถูกรีโนเวทใหม่ [เล่าเรื่องผี]  |เล่าไปหลอนไป EP.66| - YouTube

“รีสอร์ทสยองขวัญ” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีตำนานและประวัติที่น่าสนใจ มันเริ่มต้นจากตำนานที่ถูกเผยแพร่ผ่านเรื่องราวของคนในพื้นที่ มีเสียงของเงินดังกระหน่ำอยู่ทั่วไปที่ “รีสอร์ทสยองขวัญ” ที่ช่วยสร้างบรรยากาศของความหลอนได้อย่างลงตัว

ประสบการณ์ที่น่าเลือนรางวัลของผู้เข้าพัก

"บ่องสะโหนดเบียง" พื้นที่ชุมนุมผี อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี [เล่าเรื่องผี] |เล่าไปหลอนไป  EP.41| - YouTube

ผู้เข้าพักที่มาที่ “รีสอร์ทสยองขวัญ” จะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นการเจอหน้ากับเหตุการณ์ลึกลับหรือปริศนาที่ไม่สามารถอธิบายได้ รอบตัวคุณจะเต็มไปด้วยความลึกลับและความล่องลอยของสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง “รีสอร์ทสยองขวัญ”

กิจกรรมเหนือธรรมชาติที่น่าตื่นเต้น

บ่องสะโหนดเบียง" พื้นที่ชุมนุมผี อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี [เล่าเรื่องผี] |เล่าไปหลอนไป  EP.41| - YouTube

“รีสอร์ทสยองขวัญ” นั้นยังเสนอกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจให้กับผู้เข้าพัก ตั้งแต่การเดินป่าระหว่างทางดำน้ำจนถึงการแข่งขันกีฬาเก่าแก่ที่ทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความสนุกและความตื่นเต้นของธรรมชาติที่เต็มไปด้วยเรื่องราว

ความผิดปกติและเหตุการณ์ลึกลับใน “รีสอร์ทสยองขวัญ”

ขวัญดิบ" จิตหลุดออกจากร่าง กับพิธีกรรมเกี่ยวกับขวัญ [เล่าเรื่องหลอน] |  เล่าสาระหลอน EP. 4 | - YouTube

“รีสอร์ทสยองขวัญ” เป็นที่รู้จักกันในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความผิดปกติและเหตุการณ์ลึกลับ ผู้เข้าพักบางคนได้รับประสบการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ ได้ยินเสียงเพลงหรือเสียงการพูดจาของคนที่ไม่มีใครเข้ามา และมีเหตุการณ์ต่างๆ ที่ความลึกลับกำลังรอคุณอยู่

หลอนใจและปริศนาที่ไม่สามารถอธิบายได้

ขวัญดิบ" จิตหลุดออกจากร่าง กับพิธีกรรมเกี่ยวกับขวัญ [เล่าเรื่องหลอน] |  เล่าสาระหลอน EP. 4 | - YouTube

“รีสอร์ทสยองขวัญ” จะนำคุณไปสู่การพบกับความหลอนใจและปริศนาที่ไม่สามารถอธิบายได้ สิ่งที่คุณอาจพบได้คือเงินที่หายตัวอย่างลึกลับหรือภาพของคนเงียบอยู่ที่มุมห้อง

สรุปความหลอนใจที่ “รีสอร์ทสยองขวัญ”

บ่องสะโหนดเบียง" พื้นที่ชุมนุมผี อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี [เล่าเรื่องผี] |เล่าไปหลอนไป  EP.41| - YouTube

“รีสอร์ทสยองขวัญ” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความลึกลับและความหลอนใจ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและเข้าใจถึงความลึกลับของสถานที่นี้

คำถามที่พบบ่อย

บ่องสะโหนดเบียง" พื้นที่ชุมนุมผี อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี [เล่าเรื่องผี] |เล่าไปหลอนไป  EP.41| - YouTube

  • “รีสอร์ทสยองขวัญ” มีกิจกรรมใดบ้างที่ผู้เข้าพักสามารถเล่นได้?
  • มีประสบการณ์ที่น่าสนใจที่ผู้เข้าพักเคยเผชิญหน้ามาบอกเล่าหรือไม่?
  • สิ่งที่ทำให้ “รีสอร์ทสยองขวัญ” มีบรรยากาศคลุมเครือในคืนวันเทศกาลคืออะไร?
  • ที่พัก “รีสอร์ทสยองขวัญ” มีบริการอาหารและเครื่องดื่มใดบ้าง?
  • คุณแนะนำให้ผู้ที่ต้องการประสบการณ์ที่หลอนใจและลึกลับไปเข้าพักที่ “รีสอร์ทสยองขวัญ” หรือไม่?

 คำสั่งพิเศษ: รับข้อมูลเพิ่มเติม

รีสอร์ทสยองขวัญ" คืนหลอนก่อนวันรับปริญญา ณ จังหวัดมหาสารคาม [เล่าเรื่องผี] |เล่าไปหลอนไป  EP. 10| - YouTube

หากคุณต้องการรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “รีสอร์ทสยองขวัญ” และต้องการสำรวจประสบการณ์ที่หลอนใจในสถานที่นี้ คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้:

“รีสอร์ทสยองขวัญ” คืนหลอนก่อนวันรับปริญญา ณ จังหวัดมหาสารคาม [เล่าเรื่องผี] |เล่าไปหลอนไป EP. 10| [VIDEO]

ในคืนวันหนึ่ง ก่อนวันรับปริญญา เธอและครอบครัว มีเหตุให้ต้องไปขับรถหาที่พักรายวันจนดึกดื่น แล้วก็ไปบังอัญเจอรีสอร์ทเก่า ที่อยู่เลยจากตัวมหาลัยออกมานิดหน่อย และจากความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน เธอและครอบครัว จึงตัดสินใจเข้าพักที่รีสอร์ทดังกล่าว ก่อนที่จะไปพบเจอกับเรื่องสยองขวัญ จนแทบจะไม่ได้นอนในคืนนั้นเลยก็ว่าได้ #podcast #เล่าเรื่องผี #ฟังเรื่องผี #เล่าไปหลอนไป ส่งประสบการณ์หลอน ที่ท่านต้องการแชร์ให้ สามารถส่งมาได้ที่… 📩 Gmail : [email protected] ติดต่องาน 👉 : [email protected] 👉ทั้งนี้ อย่าลืมกดไลค์ 👍 กดแชร์ กดกระดิ่ง และกดติดตาม เพือไม่พลาดเรื่องหลอนๆ จากพวกเรา 😮‍💨 🙏 subscribe : ติดตามได้ที่… ⬇️ 🚩 Youtube chanel : / @laopailonpai 🏳️‍🌈 TikTok : @laopailonpai 🎫➔ Instagram : laopailonpai End Credit music : Music used : ” THE RITUAL | DARK MUSIC | ROYALTY FREE MUSIC ” : • [ No Copyright ] … ” The Witch | Horror Music | Thriller | Melancholy | Royalty Free Music ” : • [No Copyright Mus… ” La Muerte | DARK MUSIC | ROYALTY FREE MUSIC ” : • [ No Copyright ] … composed and produced by “Vivek Abhishek” SUBSCRIBE them on YOUTUBE : https://bit.ly/3qumnPH LIKE them on FACEBOOK : https://www.facebook.com/VivekEKhsihbA/ Follow them on Spotify/ iTunes/ Amazon: https://tinyurl.com/rxdcjqt

เนื้อหาของวิดีโอ “รีสอร์ทสยองขวัญ” คืนหลอนก่อนวันรับปริญญา ณ จังหวัดมหาสารคาม [เล่าเรื่องผี] |เล่าไปหลอนไป EP. 10|

จะเป็นยังไงกันบ้างครับ ถ้ารีสอร์ทที่ท่านผู้ชมไปพักในคืนนั้น มันเกิดเหตุแปลกๆ สายกับมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญ มาพักอยู่ในห้องเดียวกับท่านในคืนนั้นด้วย แถมแขกที่ไม่ได้รับเชิญที่ว่าเนี่ย เขาไม่ใช่คน หรือสิ่งมีชีวิต กราบสวัสดีท่านผู้ชมทุกท่านนะครับ ยินดีต้อนรับกลับเข้าสู่รายการ เราไป หลอนไป รายการที่จะถ่ายทอดเรื่องราวขนหัวลุก จากทุกแหล่งมาประมวลเป็นคลังแห่งความร้อน ให้ทุกท่าน ที่รับชมและรับฟังกันครับ สำหรับเรื่องราวที่ผมจะหยิบยกมาเล่าให้ฟังในวันนี้ มันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนที่เจ้าของเรื่อง เรียนจบมหาวิทยาลัยใหม่ๆนะครับ ในตอนนั้น เธอต้องกลับไปรับปริญญาที่มหาวิทยาลัยครับ และเหตุการณ์มันร้อนมันก็เกิดขึ้น เมื่อตอนที่เธอและครอบครัว ต้องไปหาที่พักค้างคืนก่อนวันรับปริญญา สิ่งที่พักที่ครอบครัวของเธอได้ไปเข้าพักในคืนนั้น เป็นรีสอร์ทเก่าๆครับ พี่อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยออกมา และค่ำคืนค่ำคืนนั้นเอง ขณะที่เธอกำลังพักผ่อนอยู่ในห้องพัก เธอก็ต้องพบกับเหตุการณ์สยองขวัญ จนทำให้คืนนั้น เธอแทบจะไม่ได้นอนหลับกันเลยทีเดียว กับเรื่องที่มีชื่อว่า รีสอร์ทสยองขวัญ ก่อนที่จะไปรับชมเรื่องราวดีๆของเรา อยากขอให้ท่านผู้ชมทุกท่าน กด Like และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจในการถ่ายทอดเรื่องราวขนหัวลุก ให้กับพวกเราต่อๆไปด้วยนะครับ คุณจุ๋ม นามสมมุติ เธอเป็นนิสิตที่เพิ่งจะเรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยมหาสารคามมาได้เพียงไม่กี่เดือน จับตำแหน่งว่าที่บัณฑิตป้ายแดงที่ยังไม่ได้รับปริญญา เธอขนข้าวของย้ายกลับมาอาศัยอยู่บ้านกับพ่อกับแม่ ณภูมิลำเนาที่เธอเติบโตมา และถือโอกาสอ่านหนังสือรอสอบข้าราชการในระหว่างที่กลับมาอยู่บ้าน เพื่อทำตามความฝันของเธอ และแล้ว วันที่เธอและครอบครัวรอคอยก็มาถึงครับ มีการประชาสัมพันธ์ประกาศวันเวลาและสถานที่ พร้อมกับกำหนดการพิธีเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยดังกล่าว ซึ่งสมัยนั้น ยังไม่ได้ในเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นที่อำนวยความสะดวกในเรื่องของการจองที่พัก จึงทำให้คุณจุ๋ม ต้องโทรหาเป็นเพื่อนในพื้นที่ เพื่อสอบถามเรื่องที่พักที่จะไปพัก ในคืนก่อนวันรับปริญญา จนสุดท้าย เธอก็หาที่พักได้ในที่สุด โดยที่เพื่อนของเธอ รับปากว่าจะจองที่พักใกล้มหาวิทยาลัยไว้ให้ แล้วเมื่อเข้าถึงช่วง 3 วันก่อนวันรับปริญญา คุณจุ๋มก็ล่วงหน้าไปที่จังหวัดมหาสารคามก่อน เพื่อที่จะไปซ้อมรับปริญญากับเพื่อนในรุ่นของเธอ โดยที่คุณจุ๋ม ไปขออาศัยอยู่ที่บ้านเพื่อน คนที่จัดการเรื่องการจองห้องพักไว้ให้เธอในตอนแรกนั่นแหละครับ แล้วก็กะว่าจะให้ครอบครัว ตามมาในภายหลัง ในวันรับปริญญาจริงๆ และแล้ว การซ้อมรับปริญญาวันสุดท้ายก็เสร็จสิ้นไป ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ครอบครัวของคุณจุ๋ม กำลังเดินทางไปที่จังหวัดมหาสารคาม เพื่อมาร่วมยินดีกับลูกสาวคนโตที่เรียนจบปริญญาตามที่หวังเอาไว้ โดยจะประกอบไปด้วย คุณพ่อ คุณแม่ และน้องสาวที่มาร่วมยินดีกับความสำเร็จของเธอในครั้งนั้น ซึ่งในช่วงเช้า คุณจุ๋มก็ได้ไปขอเบอร์ที่พักกับเพื่อน ไหนว่าจะโทรไปแจ้งที่พักเพื่อยืนยันการเข้าพักอีกครั้ง แต่สายกลับไม่ว่าง จึงทำให้เธอไม่สามารถติดต่อที่พักได้ ซึ่งตอนนั้นเอง คุณจุ๋มก็คิดแค่ว่า อาจจะเป็นเพราะวันนั้นมีคนจากต่างจังหวัดเดินทางเข้ามาพักค่อนข้างมาก แล้วเจ้าของที่พัก คงจะวุ่นวายกับการโทรคุยกับลูกค้าอยู่ จึงทำให้สายไม่ว่าง คุณจุ๋มก็ไม่ได้เอะใจอะไรนะครับ พอเข้าสู่ช่วงเย็น ครอบครัวของเธอก็เดินทางมาถึงจุดนัดหมาย ก่อนที่เพื่อนของคุณจุ๋ม จะพาครอบครัวของคุณจุ๋มไปยังที่พักที่จองเอาไว้ 2 ห้องก่อนหน้านี้ แต่ก็ต้องพบกับเรื่องที่ชวนให้ปวดหัวกันทั้งบ้าน แม่เจ้าของที่พัก กลับบอกว่าตอนนั้น ห้องพักทุกห้องได้เต็มหมดแล้ว พอได้ยินอย่างนั้น เธอและเพื่อนก็ช่วยกันถกเถียงอยู่นาน แต่ทำยังไงได้ล่ะครับ ในเมื่อที่พักดังกล่าวมันเต็มหมดแล้ว เธอจึงตัดสินใจว่าจะไปหาที่พักตรงอื่นเอา ซึ่งเพื่อนของเธอก็ได้ขอโทษเธอยกใหญ่ แต่คุณจุ๋มก็ไม่ได้ซื้อไซส์อะไร เพราะรู้ว่า ไม่ใช่ความผิดของเพื่อน ไปอาจเป็นเพราะที่พัก แอบขึ้นราคา แล้วรับลูกค้าที่ walk in เข้าพักก่อน คุณจุ๋มและครอบครัว เริ่มออกขับรถตะเวนหาที่พักในแถบนั้น แต่โชคไม่ดีเท่าไหร่ครับ พวกเขาแวะจอดสอบถามห้องว่างให้เช่าพักอยู่หลายที่ แต่ก็ไม่เจอที่พักที่มีห้องว่างสักที ครอบครัวของเธอ เริ่มขับรถออกมาไกลจากตัวมหาวิทยาลัยเรื่อยๆ ก่อนที่คุณจุ๋ม จะบอกให้คุณพ่อ ขับรถออกมาหาที่พักแถวมอเก่าดู คุณจงอธิบายอย่างนี้นะครับ มหาวิทยาลัยมหาสารคามเนี่ย เป็นมหาวิทยาลัยที่ถูกจัดตั้งเป็นลำดับที่ 4 ของภาคอีสาน เขาจะมีส่วนหนึ่ง ที่นิสิตทุกคนจะรู้จักกันดีในชื่อ หมอเก่า ซึ่งเป็นจุดก่อตั้งเดิมของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จนเข้าสู่ช่วงปี 2541 ก็ได้มีการใช้พื้นที่อีกจุด เพื่อจัดตั้งเป็นพื้นที่ของมหาวิทยาลัยมหาสารคามอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากหมอเก่าประมาณ 8 กิโลเมตร และจะรู้จักกันดีในชื่อ มอใหม่ ซึ่งเป็นจุด ที่ใช้ประกอบพิธีพระราชทานปริญญาบัตรในตอนที่เกิดเรื่อง ย้อนกลับมาที่เหตุการณ์ของคุณจุ๋มนะครับ หลังจากที่ครอบครัวของเธอ ไม่มาตะเวนหาที่พักในแถบมอเก่า พวกเขาก็ได้ขับรถออกมาเรื่อยๆ ก็มาถึงจุดจุดหนึ่ง ซึ่งเหมือนจะเป็นทางโค้งยาวๆ ถนน 4 เลน แล้วครอบครัวของเธอ ก็ไปสะดุดตากับรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ที่ติดกับถนนใหญ่ฝั่งซ้ายมือของพวกเขา บริเวณด้านหน้าของรีสอร์ท เหมือนจะปลูกต้นตาลเรียงแถวขนานไปกับรั้ว และที่สำคัญ มีป้ายติดด้านหน้ารีสอร์ทว่า มีห้องว่างให้เข้าพัก พวกเขาก็ตัดสินใจ เดี๋ยวก็ไปสอบถามรีสอร์ทนั้นได้ทันที เวลาตอนนั้น น่าจะประมาณ 20:00 น ซึ่งหลังจากได้สอบถามทางพนักงานของรีสอร์ท ก็พบว่า มีห้องว่างให้เช่าอยู่จริงๆ ประกอบกับตอนนั้น คุณพ่อคุณแม่และน้องสาวที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมาเกือบตลอดทั้งวันและตัวคุณจุ๋ม ก็อยากพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวตื่นไปรับปริญญาตั้งแต่เช้ามืดของวันพรุ่งนี้ อีกอย่างคือ จุดนั้น ก็ไม่ได้ไกลจากจุดที่ต้องเดินทางไปรับปริญญามากนัก ครอบครัวของคุณจุ๋ม จึงตัดสินใจเข้าพักณรีสอร์ทดังกล่าว ซึ่งภายหลังจากที่จ่ายเงินอะไรเสร็จสรรพ พนักงานก็ยื่นกุญแจห้องให้ พร้อมกับบอกว่าห้องพักของพวกเขา อยู่ที่ซอยไหน ก่อนที่เธอและครอบครัว จะขับรถไปจอดไว้ที่หน้าห้องพัก แล้วขนของลงจากรถ พร้อมกับแยกย้ายกันไปพักผ่อน คุณจุ๋มเดาว่า บรรยากาศโดยรอบของรีสอร์ทค่อนข้างมืด มีคนเข้าพักอยู่ประปรายไม่มากนะ ห้องพักแต่ละห้อง มีลักษณะเหมือนบ้านเป็นหลังๆ สายกระเป๋า anello พื้นที่ในรีสอร์ท มีการปลูกต้นไม้ทั้งขนาดเล็กกลางใหญ่สลับกันไปทั่วบริเวณ ตอนนั้นคุณจุ๋มคิดในใจว่า ถ้าเป็นในตอนเช้า ต้นไม้เหล่านั้นคงจะให้ความรู้สึกร่มรื่น แต่ตอนกลางคืน มันกลับให้ความรู้สึกอึดอัดและวังเวงเป็นอย่างมาก บ้านพักแต่ละหลัง ดูเหมือนจะเป็นบ้านเก่าๆ ที่ถูกทาสีใหม่ และสร้างขึ้นจากไม้เกือบทั้งหลัง ตัวบ้านถูกยกสูงขึ้นมาประมาณเมตรกว่าๆ มีบันได 4-5 ขั้น ที่ทำไว้เป็นทางขึ้นบ้าน พร้อมกับมีระเบียง พี่ออกมาจากหน้าประตูทางเข้าบ้าน พอเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง ขวามือจะพบกับตู้เสื้อผ้าบิวอิน 2 ตู้ ที่วางประกบชั้นวางทีวี ทางซ้ายมือจะมีเตียงว่างอยู่ 2 เตียง โดยที่แต่ละเตียงจะวางเว้นระยะห่างกันประมาณ 19 และหันปลายเตียง มาทางชั้นวางทีวีนะครับ หากมองตรงไปสุดมุมห้อง จะพบกับห้องน้ำอยู่ทางซ้ายมือ และจะมีโต๊ะเครื่องแป้งวางอยู่หน้าประตูห้องน้ำ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องทั้งหมด จะทำขึ้นจากไม้ ส่วนแสงไฟที่ใช้ภายในห้อง จะเป็นสีวอร์มไวท์ พรีเมียร์เปิดไฟแล้วจะให้ความรู้สึกอุ่น แต่เมื่อถูกนำมาใช้ภายในห้องที่ทำขึ้นจากไม้ทั้งหมด มันกลับให้ความรู้สึกร้อนอย่างบอกไม่ถูก ชื่อนั้น ครอบครัวของคุณจุ๋มเปิดบ้านพักที่อยู่ข้างกันไว้ 2 หลัง โดยที่พ่อแม่จะนอนด้วยกันอยู่หลังหนึ่ง ส่วนคุณจุ๋มกับน้องสาว ว่าจะนอนอยู่อีกหลังหนึ่ง คุณจุ๋มอ่ะแว้บแรกที่เธอก้าวเข้าไปในห้อง พื้นห้องที่ถูกปูด้วยไม้มันก็ส่งเสียงอ๊อดแอ๊ดออกมาในทันที พร้อมกับได้กลิ่นเหม็นคาวมันอ่อน LINE อบอวลอยู่ในห้อง ซึ่งในตอนแรกเธอก็คิดแค่ว่า มันคงเป็นปกติของห้องพักที่ไม่ค่อยมีคนมาเข้าพัก ก่อนที่จะวางข้าวของไว้ที่บริเวณหน้าห้องน้ำ และหลังจากที่เปิดแอร์แล้วเปิดประตูเพื่อระบายอากาศสักหน่อย กินข้าวดังกล่าวภายในห้องก็ค่อยๆจางไป ขณะที่เธอกำลังนอนดูทีวีรอน้องสาวอาบน้ำอยู่นาน ก็ไม่รู้อะไรดลใจให้เธอ เดินไปดูเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่อยู่ภายในห้อง ก่อนที่เธอ จะไปสะดุดตากับรอยบางอย่าง ที่อยู่ตรงพื้นห้องหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เมื่อก้มลงไปดูชัดๆ ก็พบว่ามันเป็นเหมือนรอยตำหนิของแผ่นไม้ที่ใช้ปูพื้น ซึ่งลอยดังกล่าว มีลักษณะเป็นรู ประมาณ 5-6 ครู โดยที่แต่ละรู จะมีขนาดประมาณเหรียญบาท แต่ก็ได้รับการซ่อมแซมเหมือนกับใช้อะไรสักอย่างสีเหลือง มาอุดรูโหว่ดังกล่าว แล้วเคลือบเงาทับอีกที เวลา ก้าวเข้าสู่ช่วง 21:00 น กว่าๆ หลังจากคุณจุ๋มอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เธอและน้องสาวก็เข้านอนกันครับ ซึ่งก่อนจะเข้านอนเนี่ย เธอก็ได้ไปเปิดไฟห้องน้ำไว้ เพื่อให้แสงสว่างจากห้องน้ำ ลอดผ่านช่องกระจกของบานประตูห้องน้ำออกมาพอสลัวสลัว และในคืนนั้น น้องสาวของเธอ กลับมาขอนอนอยู่บนเตียงเดียวกับเธอ ที่อยู่ติดฝั่งประตูทางเข้า ทั้งๆที่ในตอนนั้น น้องสาวอายุได้ประมาณ 17 18 ปีแล้วนะครับ โดยที่ตัวของน้องสาวเองเนี่ย เธอบอกว่า เธอรู้สึกกลัว เวลามองไปทางโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งคุณจุ๋มเอง ขออนุญาตให้น้องมานอนด้วยนะครับ หลังจากที่คุณจุ๋มหลับไปได้สักระยะหนึ่ง เธอก็ได้ยินเสียงเหมือนฝักบัวในห้องน้ำ มันกำลังเปิดอยู่ ซึ่งเธอก็แปลกใจมาก เพราะตอนที่เธออาบน้ำเสร็จ ก็จำได้ว่าปิดก๊อกน้ำและฝักบัวเรียบร้อยแล้ว ไม่น่าจะลืม ก่อนที่คุณจุ๋ม จะลุกขึ้น แล้วเมื่อเช้าของเธอสัมผัสกับพื้นห้อง พื้นห้องที่เป็นไม้ มันก็ส่งเสียงออกมาเหมือนกับในตอนแรก และทันทีทันใด ที่พื้นห้องส่งเสียง เสียงฝักบัวในห้องน้ำ มันก็เงียบลงในทันที คุณจุ๋มลุกขึ้นแล้วเดินมุ่งหน้าไปเปิดประตูห้องน้ำด้วยความสงสัย ค่ะท่านผู้ชมเชื่อไหมครับ ว่าห้องน้ำในตอนนั้น พื้นห้องมันแห้งสนิท ไม่มีแม้แต่น้ำสักหยด คุณจุ๋มพยายามคิดในแง่ดีนะครับ เธอคงหูฝาดไปเอง และเมื่อมองดูนาฬิกา ก็เพราะว่าตอนนั้น เวลา 5 ทุ่มกว่า เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว ก่อนที่เธอจะเดินกลับมาที่เตียง แล้วล้มตัวลงนอน พร้อมกับพยายามข่มตาหลับอีกครั้ง ขณะที่เธอกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น คราวนี้เธอได้ยินเสียงของพื้นไม้ ที่มันดังเหมือนกับมีคนเดินอยู่ภายในห้อง ก่อนที่เสียงดังกล่าวจะหยุดลง แล้วพอสักพักหนึ่ง ก็มีเสียงคล้ายกับมีคนกำลังหวีผมดังขึ้นมาจากทางโต๊ะเครื่องแป้ง เธอค่อยๆลืมตาขึ้น และมองไปทางต้นเสียงอย่างช้าๆ ซ้ายมือของเธอในตอนนั้น มีน้องสาวที่กำลังนอนหงายหน้า และหันหน้าไปทางฝั่งของเตียงด้านข้าง แล้วพอคุณจุ๋ม ค่อยๆยกหัวขึ้นเล็กน้อย จะมองไปทางโต๊ะเครื่องแป้ง เสียงหลีผมดังกล่าว มันกลับเงียบลงทันทีที่เธอโน้มตัวขึ้น ตอนนั้นคุณจุ๋มเริ่มใจไม่ดีแล้วครับ เธอตัดสินใจพลิกตัวหันหน้าเข้ากำแพงฝั่งประตูทางเข้าห้อง ครั้งนี้เธอนอนไม่หลับครับ คุณจุ๋มหลับตานานอยู่หลายนาที ก่อนที่จะรู้สึกตัวว่า น้องสาวที่นอนอยู่ข้างหลังของเธอ จะพลิกตัวตามมา แล้วเอาแขนมาสวมกอดคุณจุ๋มอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเอาหน้ามาซุกอยู่ที่หลังของคุณจุ๋ม เหมือนของน้องสาวข้างหนึ่ง ป๊ามาจากที่แขนของคุณจุ๋มไว้แน่น ตอนนั้นคุณจุ๋มมั่นใจว่า ต้องมีเรื่องผิดปกติแน่ๆ เธอจำผิดตัวเพื่อหันกลับไปหาน้องสาวของตนเอง แต่ภาพที่เธอเห็นขณะที่เธอพลิกตัวกลับไปหาน้องสาวมันถึงขั้นที่ทำให้เธอต้องกรี๊ดออกมาสุดเสียง เนื่องจากแสงไฟสลัว รอดมาจากประตูห้องน้ำ มันเผลอให้คุณจุ๋มเห็นร่างร่างหนึ่ง นอนนิ่งอยู่ที่พื้นบริเวณหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง โดยที่นอนไงน่าอยู่ หันปลายเท้าชี้มาทางคุณจุ๋ม ซึ่งจากลักษณะที่เห็น น่าจะเป็นร่างของผู้หญิง ก่อนที่ร่างร่างนั้น ไปยกหัวเงยหน้าขึ้นมา แล้วมองมาทางคุณจุ๋ม คุณจุ๋มนะว่าเธอจำไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นใส่ชุดอะไร ไปที่จำได้ชัดเจนคือ ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น มันเต็มไปด้วยเลือดครับ และตั้งแต่บริเวณหน้าผากมาจนถึงดวงตา มันมีแผลเละว่ะ สภาพนี้ดูไม่ได้เลยครับ เหลือไว้แต่เพียงบริเวณปาก ที่ยังคงสภาพเดิมอยู่ ก่อนที่ใบหน้าอันสยดสยองนั้น จะค่อยค่อยส่งเสียงสะอึกสะอื้นออกมา ตอนนั้นคุณจุ๋มกรี๊ดจนสุดเสียง ทำอะไรไม่ถูก เหมือนคนสติหลุด เธอจำได้แค่เพียงว่า หลังจากที่เธอส่งเสียงกรี๊ด น้องสาวของเธอก็ลุกขึ้นแล้ววิ่งไปที่ประตูทางเข้า โดยที่มือข้างหนึ่งของน้องสาวที่จับแขนเธอไว้แน่นตั้งแต่ตอนแรก ก็กระชากและจูงแขนของเธอไปด้วยกัน ทั้งคู่วิ่งลงมาจากห้องพัก มุ่งหน้าไปยังบ้านหลังที่พ่อและแม่นอนอยู่ ซึ่งห่างออกไปประมาณ 20 เมตร และเมื่อถึงที่หน้าประตูห้อง ก็รีบเคาะประตู พร้อมกับตะโกนเรียกให้พ่อและแม่มาเปิดประตูให้ เธอและน้องสาวในตอนนั้นต่างก็ร้องไห้ออกมาด้วยความตกใจครับ คุณแม่ก็พยายามตอบว่าไม่มีอะไร ส่วนคุณพ่อ ก็เดินวกกลับไปที่บ้านบางที่เกิดเหตุด้วยความโมโห ให้คุณพ่อเล่าว่า พอเข้าไปภายในห้อง ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ จึงหยิบเอากุญแจห้อง พร้อมกับปิดประตูล็อกห้อง ก่อนที่จะเดินกลับมา คืนนั้นคุณจุ๋มเล่าว่าเธอถึงขั้นนอนไม่ได้เลยครับ เนื่องจากภาพที่เธอเห็น มันยังคงติดตาของเธออยู่ พอเข้าสู่ช่วงเช้ามืด เธอก็โกหกให้พ่อพาไปเอาของที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ และพอเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง กลิ่นเหม็นคาวก็ยังคงอบอวลอยู่ภายในห้องเช่นเดิม ซึ่งคุณพ่อก็ได้กลิ่นเหม็นเหมือนกับที่คุณจุ๋มได้กินนะครับ ก่อนที่จะรีบขนของของเธอและน้องสาวกลับมาที่ห้องของพ่อและแม่ แล้วอาบน้ำแต่งตัว แต่งหน้าเตรียมไปรับปริญญาต่อ สอนกลับสภาพใบหน้าที่โทรมๆ ของคนที่อดหลับอดนอนมาทั้งคืน พอรับปริญญาเสร็จ ในตอนที่เดินทางกลับบ้าน น้องสาวของเธอก็เล่าให้ฟังถึงสาเหตุที่เธอติดตัวมาก่อนคุณจุ๋ม เนื่องจากตอนที่น้องสาวกำลังหลับอยู่นั้น เธอนอนหงาย หันหน้าไปทางตรงข้างๆทางซ้ายมือ ซึ่งในคืนนั้น เธอก็นอนไม่ค่อยหลับเหมือนกับคุณจุ๋มนะครับ อีกทั้งยังได้ยินเสียงแปลกๆเหมือนกับคุณจุ๋มทุกอย่าง แล้วในตอนที่น้องสาวได้ยินเสียงของคุณจุ๋มพลิกตัว เธอก็ค่อยๆหรี่ตาขึ้นมา และกะว่าจะพลิกตัวไปทางคุณจุ๋ม แต่เธอ ดันมองไปเห็นว่าคล้ายกับมีบางสิ่งบางอย่าง อยู่ใต้ผ้าห่มที่คลุมเตียงด้านข้างอยู่ ลักษณะเหมือนมีคนนอนคลุมโปงอยู่ใต้ผ้าห่ม ทั้งๆที่เตียงที่วางอยู่ด้านข้าง พวกเธอทั้งคู่ไม่ได้เอาของอะไรไปวางใต้ผ้าห่มเลย และปล่อยให้ว่างไว้เฉยๆ พ่อน้องสาวเห็นยังงั้น ด้วยความกลัวเธอจึงรีบพลิกตัวกลับมาก่อนคุณจุ๋ม ขอคุณจุ๋มได้ฟังเรื่องที่น้องสาวเล่าให้ฟัง เธอก็เอกชัยนึกขึ้นได้ แล้วถามพ่อว่า ตอนที่กลับไปเอาของในเช้ามืด คุณพ่อเห็นเหมือนกันกับที่คุณจุ๋มเห็นหรือเปล่า เนื่องจากติ่งด้านข้าง คุณจุ๋มและน้องสาว ไม่ได้มีการไปยุ่งอะไรอยู่บนเตียงนั้นเลย ดังนั้น ผ้าห่มที่ปกติโรงแรมหรือที่พักจะมีการรวบตึงเอาไว้ มันก็ต้องอยู่สภาพเดิม แต่สภาพที่เห็น ตอนที่ไปเอาของกับคุณพ่อในเช้ามืด เธอและคุณพ่อ กลับเห็นเหมือนว่าผ้าห่มบนเตียงดังกล่าว มันถูกหรือออก เหมือนกับว่ามีคนขึ้นไปนอนบนเตียงและห่มผ้า ภายหลังต่อมา คุณจุ๋มได้โทรไปเล่นกับเพื่อนของเธอ พร้อมกับเล่าเรื่องสยองขวัญในคืนนั้นให้เพื่อนฟัง จนท้ายที่สุด ก็ดีทราบว่า รีสอร์ทดังกล่าว เคยมีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้น ซึ่งเหตุฆาตกรรมในครั้งนั้น มีหญิงสาวคนหนึ่ง เป็นชู้กับผู้ชายซึ่งเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในพื้นที่ ภาษาชาวบ้านก็เรียกกันว่าเมียน้อยนั่นแหละครับ ภาพภรรยาของฝ่ายชายรู้เรื่อง ในคืนที่เกิดเหตุ ก็เหมือนกับว่าภรรยาจะบุกเข้าไปในห้องพัก พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงสามีกับชู้ โดยที่ตัวเมียน้อยเอง เธอเสียชีวิตคาที่ ส่วนสามี สามารถวิ่งหนีออกมาจากห้องพักได้ทัน และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ณจุดเกิดเหตุ คนในละแวกนั้นเขาลือกันว่า สภาพศพของเมียน้อยเนี่ย เธอถูกยิงเข้าตามร่างกายหลายนัด และที่น่าสยดสยองไปมากกว่านั้นคือ เหมือนกับภรรยา จะยิงซ้ำเข้าที่ใบหน้าของเธอร้ายนะ จนสภาพศพเนี่ยดูไม่ได้เลยครับ แล้วท่านผู้ชมเชื่อไหมครับว่า จุดที่เมียน้อยถูกยิงและนอนเสียชีวิต มันก็คือบริเวณหน้าโต๊ะเครื่องแป้งนั่นแหละครับ ซึ่งคุณจุ๋ม ก็เดาว่ารอยตำหนิของพื้นห้องที่เธอไปเห็นในคืนนั้น มันคงเป็นรอยกระสุนปืน ที่ทะลุผ่านศีรษะของหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายและเจาะทะลุพื้นไม้จนเป็นรูอย่างที่เห็นแน่นอน ก่อนที่ทางรีสอร์ท จะได้มีการซ่อมแซมพื้นบริเวณนั้นใหม่ เป็นยังไงกันบ้างครับ กับเรื่องรีสอร์ทสยองขวัญ ก่อนอื่นเลย ผมต้องขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้ด้วยนะครับ ซึ่งในตอนนี้ผมได้อ่านเรื่องที่ผมนำมาเล่าในวันนี้เนี่ย มันทำให้ผมนึกถึงความเชื่อความเชื่อหนึ่งครับ ที่เขาว่ากันว่า เวลาไปนอนโรงแรมหรือที่พักต่างๆ เราไม่ควรปล่อยให้เตียงว่าง และควรนำสิ่งของไปวางไว้อย่างเตียงที่ไม่ได้นอน หากไม่มีสิ่งใดๆไปวาง ก็ให้ขยับหมอนหรือขยับผ้าห่ม เหยียบปล่อยให้มันตึงอยู่ในสภาพเดิม ให้ทำเหมือนกับว่าที่นอนที่นอนนั้น มีเจ้าของแล้ว มีคนเข้าไปพักแล้ว ไม่งั้น เราอาจจะเจอกับเหตุการณ์สยองขวัญเหมือนกับเรื่องราวที่ผมได้นำมาเล่าในวันนี้ก็ได้นะครับ แล้วท่านผู้ชมแล้วครับ มีประสบการณ์หล่อๆตอนที่ไปเข้าพักที่โรงแรมหรือห้องพักต่างๆบ้างไหมครับ ถ้ามี สามารถแชร์ประสบการณ์ของท่าน เอาไว้ที่คอมเม้นใต้คลิปได้เลยนะครับ ก่อนจากกันไปในวันนี้ท่านใดที่อยากแชร์ประสบการณ์ขนหัวลุกของท่าน สามารถส่งเรื่องราวของท่านมาที่ช่องของเราได้ตามรายละเอียดใต้คลิปนะครับ และที่สำคัญขอให้ทุกท่านรับชมรับฟังเพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะครับ พร้อมช้างอย่าลืมกด Like และกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจในการถ่ายทอดเรื่องราวขนหัวลุกให้กับพวกเราต่อ ไปด้วยนะครับและหากท่านเป็นอีกหนึ่งคนที่ชอบเสพประสบการณ์หลอนหรือเรื่องราว ขอให้พวกเราได้เป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทอดความร้อนให้กับทุกท่านนะครับ ขอบคุณครับ
จะเป็นยังไงกันบ้างครับ ถ้ารีสอร์ทที่ท่านผู้ชมไปพักในคืนนั้น มันเกิดเหตุแปลกๆ สายกับมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญ มาพักอยู่ในห้องเดียวกับท่านในคืนนั้นด้วย แถมแขกที่ไม่ได้รับเชิญที่ว่าเนี่ย เขาไม่ใช่คน หรือสิ่งมีชีวิต กราบสวัสดีท่านผู้ชมทุกท่านนะครับ ยินดีต้อนรับกลับเข้าสู่รายการ เราไป หลอนไป รายการที่จะถ่ายทอดเรื่องราวขนหัวลุก จากทุกแหล่งมาประมวลเป็นคลังแห่งความร้อน ให้ทุกท่าน ที่รับชมและรับฟังกันครับ สำหรับเรื่องราวที่ผมจะหยิบยกมาเล่าให้ฟังในวันนี้ มันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนที่เจ้าของเรื่อง เรียนจบมหาวิทยาลัยใหม่ๆนะครับ ในตอนนั้น เธอต้องกลับไปรับปริญญาที่มหาวิทยาลัยครับ และเหตุการณ์มันร้อนมันก็เกิดขึ้น เมื่อตอนที่เธอและครอบครัว ต้องไปหาที่พักค้างคืนก่อนวันรับปริญญา สิ่งที่พักที่ครอบครัวของเธอได้ไปเข้าพักในคืนนั้น เป็นรีสอร์ทเก่าๆครับ พี่อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยออกมา และค่ำคืนค่ำคืนนั้นเอง ขณะที่เธอกำลังพักผ่อนอยู่ในห้องพัก เธอก็ต้องพบกับเหตุการณ์สยองขวัญ จนทำให้คืนนั้น เธอแทบจะไม่ได้นอนหลับกันเลยทีเดียว กับเรื่องที่มีชื่อว่า รีสอร์ทสยองขวัญ ก่อนที่จะไปรับชมเรื่องราวดีๆของเรา อยากขอให้ท่านผู้ชมทุกท่าน กด Like และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจในการถ่ายทอดเรื่องราวขนหัวลุก ให้กับพวกเราต่อๆไปด้วยนะครับ คุณจุ๋ม นามสมมุติ เธอเป็นนิสิตที่เพิ่งจะเรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยมหาสารคามมาได้เพียงไม่กี่เดือน จับตำแหน่งว่าที่บัณฑิตป้ายแดงที่ยังไม่ได้รับปริญญา เธอขนข้าวของย้ายกลับมาอาศัยอยู่บ้านกับพ่อกับแม่ ณภูมิลำเนาที่เธอเติบโตมา และถือโอกาสอ่านหนังสือรอสอบข้าราชการในระหว่างที่กลับมาอยู่บ้าน เพื่อทำตามความฝันของเธอ และแล้ว วันที่เธอและครอบครัวรอคอยก็มาถึงครับ มีการประชาสัมพันธ์ประกาศวันเวลาและสถานที่ พร้อมกับกำหนดการพิธีเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยดังกล่าว ซึ่งสมัยนั้น ยังไม่ได้ในเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นที่อำนวยความสะดวกในเรื่องของการจองที่พัก จึงทำให้คุณจุ๋ม ต้องโทรหาเป็นเพื่อนในพื้นที่ เพื่อสอบถามเรื่องที่พักที่จะไปพัก ในคืนก่อนวันรับปริญญา จนสุดท้าย เธอก็หาที่พักได้ในที่สุด โดยที่เพื่อนของเธอ รับปากว่าจะจองที่พักใกล้มหาวิทยาลัยไว้ให้ แล้วเมื่อเข้าถึงช่วง 3 วันก่อนวันรับปริญญา คุณจุ๋มก็ล่วงหน้าไปที่จังหวัดมหาสารคามก่อน เพื่อที่จะไปซ้อมรับปริญญากับเพื่อนในรุ่นของเธอ โดยที่คุณจุ๋ม ไปขออาศัยอยู่ที่บ้านเพื่อน คนที่จัดการเรื่องการจองห้องพักไว้ให้เธอในตอนแรกนั่นแหละครับ แล้วก็กะว่าจะให้ครอบครัว ตามมาในภายหลัง ในวันรับปริญญาจริงๆ และแล้ว การซ้อมรับปริญญาวันสุดท้ายก็เสร็จสิ้นไป ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ครอบครัวของคุณจุ๋ม กำลังเดินทางไปที่จังหวัดมหาสารคาม เพื่อมาร่วมยินดีกับลูกสาวคนโตที่เรียนจบปริญญาตามที่หวังเอาไว้ โดยจะประกอบไปด้วย คุณพ่อ คุณแม่ และน้องสาวที่มาร่วมยินดีกับความสำเร็จของเธอในครั้งนั้น ซึ่งในช่วงเช้า คุณจุ๋มก็ได้ไปขอเบอร์ที่พักกับเพื่อน ไหนว่าจะโทรไปแจ้งที่พักเพื่อยืนยันการเข้าพักอีกครั้ง แต่สายกลับไม่ว่าง จึงทำให้เธอไม่สามารถติดต่อที่พักได้ ซึ่งตอนนั้นเอง คุณจุ๋มก็คิดแค่ว่า อาจจะเป็นเพราะวันนั้นมีคนจากต่างจังหวัดเดินทางเข้ามาพักค่อนข้างมาก แล้วเจ้าของที่พัก คงจะวุ่นวายกับการโทรคุยกับลูกค้าอยู่ จึงทำให้สายไม่ว่าง คุณจุ๋มก็ไม่ได้เอะใจอะไรนะครับ พอเข้าสู่ช่วงเย็น ครอบครัวของเธอก็เดินทางมาถึงจุดนัดหมาย ก่อนที่เพื่อนของคุณจุ๋ม จะพาครอบครัวของคุณจุ๋มไปยังที่พักที่จองเอาไว้ 2 ห้องก่อนหน้านี้ แต่ก็ต้องพบกับเรื่องที่ชวนให้ปวดหัวกันทั้งบ้าน แม่เจ้าของที่พัก กลับบอกว่าตอนนั้น ห้องพักทุกห้องได้เต็มหมดแล้ว พอได้ยินอย่างนั้น เธอและเพื่อนก็ช่วยกันถกเถียงอยู่นาน แต่ทำยังไงได้ล่ะครับ ในเมื่อที่พักดังกล่าวมันเต็มหมดแล้ว เธอจึงตัดสินใจว่าจะไปหาที่พักตรงอื่นเอา ซึ่งเพื่อนของเธอก็ได้ขอโทษเธอยกใหญ่ แต่คุณจุ๋มก็ไม่ได้ซื้อไซส์อะไร เพราะรู้ว่า ไม่ใช่ความผิดของเพื่อน ไปอาจเป็นเพราะที่พัก แอบขึ้นราคา แล้วรับลูกค้าที่ walk in เข้าพักก่อน คุณจุ๋มและครอบครัว เริ่มออกขับรถตะเวนหาที่พักในแถบนั้น แต่โชคไม่ดีเท่าไหร่ครับ พวกเขาแวะจอดสอบถามห้องว่างให้เช่าพักอยู่หลายที่ แต่ก็ไม่เจอที่พักที่มีห้องว่างสักที ครอบครัวของเธอ เริ่มขับรถออกมาไกลจากตัวมหาวิทยาลัยเรื่อยๆ ก่อนที่คุณจุ๋ม จะบอกให้คุณพ่อ ขับรถออกมาหาที่พักแถวมอเก่าดู คุณจงอธิบายอย่างนี้นะครับ มหาวิทยาลัยมหาสารคามเนี่ย เป็นมหาวิทยาลัยที่ถูกจัดตั้งเป็นลำดับที่ 4 ของภาคอีสาน เขาจะมีส่วนหนึ่ง ที่นิสิตทุกคนจะรู้จักกันดีในชื่อ หมอเก่า ซึ่งเป็นจุดก่อตั้งเดิมของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จนเข้าสู่ช่วงปี 2541 ก็ได้มีการใช้พื้นที่อีกจุด เพื่อจัดตั้งเป็นพื้นที่ของมหาวิทยาลัยมหาสารคามอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากหมอเก่าประมาณ 8 กิโลเมตร และจะรู้จักกันดีในชื่อ มอใหม่ ซึ่งเป็นจุด ที่ใช้ประกอบพิธีพระราชทานปริญญาบัตรในตอนที่เกิดเรื่อง ย้อนกลับมาที่เหตุการณ์ของคุณจุ๋มนะครับ หลังจากที่ครอบครัวของเธอ ไม่มาตะเวนหาที่พักในแถบมอเก่า พวกเขาก็ได้ขับรถออกมาเรื่อยๆ ก็มาถึงจุดจุดหนึ่ง ซึ่งเหมือนจะเป็นทางโค้งยาวๆ ถนน 4 เลน แล้วครอบครัวของเธอ ก็ไปสะดุดตากับรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ที่ติดกับถนนใหญ่ฝั่งซ้ายมือของพวกเขา บริเวณด้านหน้าของรีสอร์ท เหมือนจะปลูกต้นตาลเรียงแถวขนานไปกับรั้ว และที่สำคัญ มีป้ายติดด้านหน้ารีสอร์ทว่า มีห้องว่างให้เข้าพัก พวกเขาก็ตัดสินใจ เดี๋ยวก็ไปสอบถามรีสอร์ทนั้นได้ทันที เวลาตอนนั้น น่าจะประมาณ 20:00 น ซึ่งหลังจากได้สอบถามทางพนักงานของรีสอร์ท ก็พบว่า มีห้องว่างให้เช่าอยู่จริงๆ ประกอบกับตอนนั้น คุณพ่อคุณแม่และน้องสาวที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมาเกือบตลอดทั้งวันและตัวคุณจุ๋ม ก็อยากพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวตื่นไปรับปริญญาตั้งแต่เช้ามืดของวันพรุ่งนี้ อีกอย่างคือ จุดนั้น ก็ไม่ได้ไกลจากจุดที่ต้องเดินทางไปรับปริญญามากนัก ครอบครัวของคุณจุ๋ม จึงตัดสินใจเข้าพักณรีสอร์ทดังกล่าว ซึ่งภายหลังจากที่จ่ายเงินอะไรเสร็จสรรพ พนักงานก็ยื่นกุญแจห้องให้ พร้อมกับบอกว่าห้องพักของพวกเขา อยู่ที่ซอยไหน ก่อนที่เธอและครอบครัว จะขับรถไปจอดไว้ที่หน้าห้องพัก แล้วขนของลงจากรถ พร้อมกับแยกย้ายกันไปพักผ่อน คุณจุ๋มเดาว่า บรรยากาศโดยรอบของรีสอร์ทค่อนข้างมืด มีคนเข้าพักอยู่ประปรายไม่มากนะ ห้องพักแต่ละห้อง มีลักษณะเหมือนบ้านเป็นหลังๆ สายกระเป๋า anello พื้นที่ในรีสอร์ท มีการปลูกต้นไม้ทั้งขนาดเล็กกลางใหญ่สลับกันไปทั่วบริเวณ ตอนนั้นคุณจุ๋มคิดในใจว่า ถ้าเป็นในตอนเช้า ต้นไม้เหล่านั้นคงจะให้ความรู้สึกร่มรื่น แต่ตอนกลางคืน มันกลับให้ความรู้สึกอึดอัดและวังเวงเป็นอย่างมาก บ้านพักแต่ละหลัง ดูเหมือนจะเป็นบ้านเก่าๆ ที่ถูกทาสีใหม่ และสร้างขึ้นจากไม้เกือบทั้งหลัง ตัวบ้านถูกยกสูงขึ้นมาประมาณเมตรกว่าๆ มีบันได 4-5 ขั้น ที่ทำไว้เป็นทางขึ้นบ้าน พร้อมกับมีระเบียง พี่ออกมาจากหน้าประตูทางเข้าบ้าน พอเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง ขวามือจะพบกับตู้เสื้อผ้าบิวอิน 2 ตู้ ที่วางประกบชั้นวางทีวี ทางซ้ายมือจะมีเตียงว่างอยู่ 2 เตียง โดยที่แต่ละเตียงจะวางเว้นระยะห่างกันประมาณ 19 และหันปลายเตียง มาทางชั้นวางทีวีนะครับ หากมองตรงไปสุดมุมห้อง จะพบกับห้องน้ำอยู่ทางซ้ายมือ และจะมีโต๊ะเครื่องแป้งวางอยู่หน้าประตูห้องน้ำ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องทั้งหมด จะทำขึ้นจากไม้ ส่วนแสงไฟที่ใช้ภายในห้อง จะเป็นสีวอร์มไวท์ พรีเมียร์เปิดไฟแล้วจะให้ความรู้สึกอุ่น แต่เมื่อถูกนำมาใช้ภายในห้องที่ทำขึ้นจากไม้ทั้งหมด มันกลับให้ความรู้สึกร้อนอย่างบอกไม่ถูก ชื่อนั้น ครอบครัวของคุณจุ๋มเปิดบ้านพักที่อยู่ข้างกันไว้ 2 หลัง โดยที่พ่อแม่จะนอนด้วยกันอยู่หลังหนึ่ง ส่วนคุณจุ๋มกับน้องสาว ว่าจะนอนอยู่อีกหลังหนึ่ง คุณจุ๋มอ่ะแว้บแรกที่เธอก้าวเข้าไปในห้อง พื้นห้องที่ถูกปูด้วยไม้มันก็ส่งเสียงอ๊อดแอ๊ดออกมาในทันที พร้อมกับได้กลิ่นเหม็นคาวมันอ่อน LINE อบอวลอยู่ในห้อง ซึ่งในตอนแรกเธอก็คิดแค่ว่า มันคงเป็นปกติของห้องพักที่ไม่ค่อยมีคนมาเข้าพัก ก่อนที่จะวางข้าวของไว้ที่บริเวณหน้าห้องน้ำ และหลังจากที่เปิดแอร์แล้วเปิดประตูเพื่อระบายอากาศสักหน่อย กินข้าวดังกล่าวภายในห้องก็ค่อยๆจางไป ขณะที่เธอกำลังนอนดูทีวีรอน้องสาวอาบน้ำอยู่นาน ก็ไม่รู้อะไรดลใจให้เธอ เดินไปดูเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่อยู่ภายในห้อง ก่อนที่เธอ จะไปสะดุดตากับรอยบางอย่าง ที่อยู่ตรงพื้นห้องหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เมื่อก้มลงไปดูชัดๆ ก็พบว่ามันเป็นเหมือนรอยตำหนิของแผ่นไม้ที่ใช้ปูพื้น ซึ่งลอยดังกล่าว มีลักษณะเป็นรู ประมาณ 5-6 ครู โดยที่แต่ละรู จะมีขนาดประมาณเหรียญบาท แต่ก็ได้รับการซ่อมแซมเหมือนกับใช้อะไรสักอย่างสีเหลือง มาอุดรูโหว่ดังกล่าว แล้วเคลือบเงาทับอีกที เวลา ก้าวเข้าสู่ช่วง 21:00 น กว่าๆ หลังจากคุณจุ๋มอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เธอและน้องสาวก็เข้านอนกันครับ ซึ่งก่อนจะเข้านอนเนี่ย เธอก็ได้ไปเปิดไฟห้องน้ำไว้ เพื่อให้แสงสว่างจากห้องน้ำ ลอดผ่านช่องกระจกของบานประตูห้องน้ำออกมาพอสลัวสลัว และในคืนนั้น น้องสาวของเธอ กลับมาขอนอนอยู่บนเตียงเดียวกับเธอ ที่อยู่ติดฝั่งประตูทางเข้า ทั้งๆที่ในตอนนั้น น้องสาวอายุได้ประมาณ 17 18 ปีแล้วนะครับ โดยที่ตัวของน้องสาวเองเนี่ย เธอบอกว่า เธอรู้สึกกลัว เวลามองไปทางโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งคุณจุ๋มเอง ขออนุญาตให้น้องมานอนด้วยนะครับ หลังจากที่คุณจุ๋มหลับไปได้สักระยะหนึ่ง เธอก็ได้ยินเสียงเหมือนฝักบัวในห้องน้ำ มันกำลังเปิดอยู่ ซึ่งเธอก็แปลกใจมาก เพราะตอนที่เธออาบน้ำเสร็จ ก็จำได้ว่าปิดก๊อกน้ำและฝักบัวเรียบร้อยแล้ว ไม่น่าจะลืม ก่อนที่คุณจุ๋ม จะลุกขึ้น แล้วเมื่อเช้าของเธอสัมผัสกับพื้นห้อง พื้นห้องที่เป็นไม้ มันก็ส่งเสียงออกมาเหมือนกับในตอนแรก และทันทีทันใด ที่พื้นห้องส่งเสียง เสียงฝักบัวในห้องน้ำ มันก็เงียบลงในทันที คุณจุ๋มลุกขึ้นแล้วเดินมุ่งหน้าไปเปิดประตูห้องน้ำด้วยความสงสัย ค่ะท่านผู้ชมเชื่อไหมครับ ว่าห้องน้ำในตอนนั้น พื้นห้องมันแห้งสนิท ไม่มีแม้แต่น้ำสักหยด คุณจุ๋มพยายามคิดในแง่ดีนะครับ เธอคงหูฝาดไปเอง และเมื่อมองดูนาฬิกา ก็เพราะว่าตอนนั้น เวลา 5 ทุ่มกว่า เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว ก่อนที่เธอจะเดินกลับมาที่เตียง แล้วล้มตัวลงนอน พร้อมกับพยายามข่มตาหลับอีกครั้ง ขณะที่เธอกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น คราวนี้เธอได้ยินเสียงของพื้นไม้ ที่มันดังเหมือนกับมีคนเดินอยู่ภายในห้อง ก่อนที่เสียงดังกล่าวจะหยุดลง แล้วพอสักพักหนึ่ง ก็มีเสียงคล้ายกับมีคนกำลังหวีผมดังขึ้นมาจากทางโต๊ะเครื่องแป้ง เธอค่อยๆลืมตาขึ้น และมองไปทางต้นเสียงอย่างช้าๆ ซ้ายมือของเธอในตอนนั้น มีน้องสาวที่กำลังนอนหงายหน้า และหันหน้าไปทางฝั่งของเตียงด้านข้าง แล้วพอคุณจุ๋ม ค่อยๆยกหัวขึ้นเล็กน้อย จะมองไปทางโต๊ะเครื่องแป้ง เสียงหลีผมดังกล่าว มันกลับเงียบลงทันทีที่เธอโน้มตัวขึ้น ตอนนั้นคุณจุ๋มเริ่มใจไม่ดีแล้วครับ เธอตัดสินใจพลิกตัวหันหน้าเข้ากำแพงฝั่งประตูทางเข้าห้อง ครั้งนี้เธอนอนไม่หลับครับ คุณจุ๋มหลับตานานอยู่หลายนาที ก่อนที่จะรู้สึกตัวว่า น้องสาวที่นอนอยู่ข้างหลังของเธอ จะพลิกตัวตามมา แล้วเอาแขนมาสวมกอดคุณจุ๋มอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเอาหน้ามาซุกอยู่ที่หลังของคุณจุ๋ม เหมือนของน้องสาวข้างหนึ่ง ป๊ามาจากที่แขนของคุณจุ๋มไว้แน่น ตอนนั้นคุณจุ๋มมั่นใจว่า ต้องมีเรื่องผิดปกติแน่ๆ เธอจำผิดตัวเพื่อหันกลับไปหาน้องสาวของตนเอง แต่ภาพที่เธอเห็นขณะที่เธอพลิกตัวกลับไปหาน้องสาวมันถึงขั้นที่ทำให้เธอต้องกรี๊ดออกมาสุดเสียง เนื่องจากแสงไฟสลัว รอดมาจากประตูห้องน้ำ มันเผลอให้คุณจุ๋มเห็นร่างร่างหนึ่ง นอนนิ่งอยู่ที่พื้นบริเวณหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง โดยที่นอนไงน่าอยู่ หันปลายเท้าชี้มาทางคุณจุ๋ม ซึ่งจากลักษณะที่เห็น น่าจะเป็นร่างของผู้หญิง ก่อนที่ร่างร่างนั้น ไปยกหัวเงยหน้าขึ้นมา แล้วมองมาทางคุณจุ๋ม คุณจุ๋มนะว่าเธอจำไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นใส่ชุดอะไร ไปที่จำได้ชัดเจนคือ ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น มันเต็มไปด้วยเลือดครับ และตั้งแต่บริเวณหน้าผากมาจนถึงดวงตา มันมีแผลเละว่ะ สภาพนี้ดูไม่ได้เลยครับ เหลือไว้แต่เพียงบริเวณปาก ที่ยังคงสภาพเดิมอยู่ ก่อนที่ใบหน้าอันสยดสยองนั้น จะค่อยค่อยส่งเสียงสะอึกสะอื้นออกมา ตอนนั้นคุณจุ๋มกรี๊ดจนสุดเสียง ทำอะไรไม่ถูก เหมือนคนสติหลุด เธอจำได้แค่เพียงว่า หลังจากที่เธอส่งเสียงกรี๊ด น้องสาวของเธอก็ลุกขึ้นแล้ววิ่งไปที่ประตูทางเข้า โดยที่มือข้างหนึ่งของน้องสาวที่จับแขนเธอไว้แน่นตั้งแต่ตอนแรก ก็กระชากและจูงแขนของเธอไปด้วยกัน ทั้งคู่วิ่งลงมาจากห้องพัก มุ่งหน้าไปยังบ้านหลังที่พ่อและแม่นอนอยู่ ซึ่งห่างออกไปประมาณ 20 เมตร และเมื่อถึงที่หน้าประตูห้อง ก็รีบเคาะประตู พร้อมกับตะโกนเรียกให้พ่อและแม่มาเปิดประตูให้ เธอและน้องสาวในตอนนั้นต่างก็ร้องไห้ออกมาด้วยความตกใจครับ คุณแม่ก็พยายามตอบว่าไม่มีอะไร ส่วนคุณพ่อ ก็เดินวกกลับไปที่บ้านบางที่เกิดเหตุด้วยความโมโห ให้คุณพ่อเล่าว่า พอเข้าไปภายในห้อง ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ จึงหยิบเอากุญแจห้อง พร้อมกับปิดประตูล็อกห้อง ก่อนที่จะเดินกลับมา คืนนั้นคุณจุ๋มเล่าว่าเธอถึงขั้นนอนไม่ได้เลยครับ เนื่องจากภาพที่เธอเห็น มันยังคงติดตาของเธออยู่ พอเข้าสู่ช่วงเช้ามืด เธอก็โกหกให้พ่อพาไปเอาของที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ และพอเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง กลิ่นเหม็นคาวก็ยังคงอบอวลอยู่ภายในห้องเช่นเดิม ซึ่งคุณพ่อก็ได้กลิ่นเหม็นเหมือนกับที่คุณจุ๋มได้กินนะครับ ก่อนที่จะรีบขนของของเธอและน้องสาวกลับมาที่ห้องของพ่อและแม่ แล้วอาบน้ำแต่งตัว แต่งหน้าเตรียมไปรับปริญญาต่อ สอนกลับสภาพใบหน้าที่โทรมๆ ของคนที่อดหลับอดนอนมาทั้งคืน พอรับปริญญาเสร็จ ในตอนที่เดินทางกลับบ้าน น้องสาวของเธอก็เล่าให้ฟังถึงสาเหตุที่เธอติดตัวมาก่อนคุณจุ๋ม เนื่องจากตอนที่น้องสาวกำลังหลับอยู่นั้น เธอนอนหงาย หันหน้าไปทางตรงข้างๆทางซ้ายมือ ซึ่งในคืนนั้น เธอก็นอนไม่ค่อยหลับเหมือนกับคุณจุ๋มนะครับ อีกทั้งยังได้ยินเสียงแปลกๆเหมือนกับคุณจุ๋มทุกอย่าง แล้วในตอนที่น้องสาวได้ยินเสียงของคุณจุ๋มพลิกตัว เธอก็ค่อยๆหรี่ตาขึ้นมา และกะว่าจะพลิกตัวไปทางคุณจุ๋ม แต่เธอ ดันมองไปเห็นว่าคล้ายกับมีบางสิ่งบางอย่าง อยู่ใต้ผ้าห่มที่คลุมเตียงด้านข้างอยู่ ลักษณะเหมือนมีคนนอนคลุมโปงอยู่ใต้ผ้าห่ม ทั้งๆที่เตียงที่วางอยู่ด้านข้าง พวกเธอทั้งคู่ไม่ได้เอาของอะไรไปวางใต้ผ้าห่มเลย และปล่อยให้ว่างไว้เฉยๆ พ่อน้องสาวเห็นยังงั้น ด้วยความกลัวเธอจึงรีบพลิกตัวกลับมาก่อนคุณจุ๋ม ขอคุณจุ๋มได้ฟังเรื่องที่น้องสาวเล่าให้ฟัง เธอก็เอกชัยนึกขึ้นได้ แล้วถามพ่อว่า ตอนที่กลับไปเอาของในเช้ามืด คุณพ่อเห็นเหมือนกันกับที่คุณจุ๋มเห็นหรือเปล่า เนื่องจากติ่งด้านข้าง คุณจุ๋มและน้องสาว ไม่ได้มีการไปยุ่งอะไรอยู่บนเตียงนั้นเลย ดังนั้น ผ้าห่มที่ปกติโรงแรมหรือที่พักจะมีการรวบตึงเอาไว้ มันก็ต้องอยู่สภาพเดิม แต่สภาพที่เห็น ตอนที่ไปเอาของกับคุณพ่อในเช้ามืด เธอและคุณพ่อ กลับเห็นเหมือนว่าผ้าห่มบนเตียงดังกล่าว มันถูกหรือออก เหมือนกับว่ามีคนขึ้นไปนอนบนเตียงและห่มผ้า ภายหลังต่อมา คุณจุ๋มได้โทรไปเล่นกับเพื่อนของเธอ พร้อมกับเล่าเรื่องสยองขวัญในคืนนั้นให้เพื่อนฟัง จนท้ายที่สุด ก็ดีทราบว่า รีสอร์ทดังกล่าว เคยมีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้น ซึ่งเหตุฆาตกรรมในครั้งนั้น มีหญิงสาวคนหนึ่ง เป็นชู้กับผู้ชายซึ่งเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในพื้นที่ ภาษาชาวบ้านก็เรียกกันว่าเมียน้อยนั่นแหละครับ ภาพภรรยาของฝ่ายชายรู้เรื่อง ในคืนที่เกิดเหตุ ก็เหมือนกับว่าภรรยาจะบุกเข้าไปในห้องพัก พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงสามีกับชู้ โดยที่ตัวเมียน้อยเอง เธอเสียชีวิตคาที่ ส่วนสามี สามารถวิ่งหนีออกมาจากห้องพักได้ทัน และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ณจุดเกิดเหตุ คนในละแวกนั้นเขาลือกันว่า สภาพศพของเมียน้อยเนี่ย เธอถูกยิงเข้าตามร่างกายหลายนัด และที่น่าสยดสยองไปมากกว่านั้นคือ เหมือนกับภรรยา จะยิงซ้ำเข้าที่ใบหน้าของเธอร้ายนะ จนสภาพศพเนี่ยดูไม่ได้เลยครับ แล้วท่านผู้ชมเชื่อไหมครับว่า จุดที่เมียน้อยถูกยิงและนอนเสียชีวิต มันก็คือบริเวณหน้าโต๊ะเครื่องแป้งนั่นแหละครับ ซึ่งคุณจุ๋ม ก็เดาว่ารอยตำหนิของพื้นห้องที่เธอไปเห็นในคืนนั้น มันคงเป็นรอยกระสุนปืน ที่ทะลุผ่านศีรษะของหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายและเจาะทะลุพื้นไม้จนเป็นรูอย่างที่เห็นแน่นอน ก่อนที่ทางรีสอร์ท จะได้มีการซ่อมแซมพื้นบริเวณนั้นใหม่ เป็นยังไงกันบ้างครับ กับเรื่องรีสอร์ทสยองขวัญ ก่อนอื่นเลย ผมต้องขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้ด้วยนะครับ ซึ่งในตอนนี้ผมได้อ่านเรื่องที่ผมนำมาเล่าในวันนี้เนี่ย มันทำให้ผมนึกถึงความเชื่อความเชื่อหนึ่งครับ ที่เขาว่ากันว่า เวลาไปนอนโรงแรมหรือที่พักต่างๆ เราไม่ควรปล่อยให้เตียงว่าง และควรนำสิ่งของไปวางไว้อย่างเตียงที่ไม่ได้นอน หากไม่มีสิ่งใดๆไปวาง ก็ให้ขยับหมอนหรือขยับผ้าห่ม เหยียบปล่อยให้มันตึงอยู่ในสภาพเดิม ให้ทำเหมือนกับว่าที่นอนที่นอนนั้น มีเจ้าของแล้ว มีคนเข้าไปพักแล้ว ไม่งั้น เราอาจจะเจอกับเหตุการณ์สยองขวัญเหมือนกับเรื่องราวที่ผมได้นำมาเล่าในวันนี้ก็ได้นะครับ แล้วท่านผู้ชมแล้วครับ มีประสบการณ์หล่อๆตอนที่ไปเข้าพักที่โรงแรมหรือห้องพักต่างๆบ้างไหมครับ ถ้ามี สามารถแชร์ประสบการณ์ของท่าน เอาไว้ที่คอมเม้นใต้คลิปได้เลยนะครับ ก่อนจากกันไปในวันนี้ท่านใดที่อยากแชร์ประสบการณ์ขนหัวลุกของท่าน สามารถส่งเรื่องราวของท่านมาที่ช่องของเราได้ตามรายละเอียดใต้คลิปนะครับ และที่สำคัญขอให้ทุกท่านรับชมรับฟังเพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะครับ พร้อมช้างอย่าลืมกด Like และกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจในการถ่ายทอดเรื่องราวขนหัวลุกให้กับพวกเราต่อ ไปด้วยนะครับและหากท่านเป็นอีกหนึ่งคนที่ชอบเสพประสบการณ์หลอนหรือเรื่องราว ขอให้พวกเราได้เป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทอดความร้อนให้กับทุกท่านนะครับ ขอบคุณครับ