สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งสังขละบุรี: 5 จุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาด!

สังขละบุรีเป็นที่รู้จักกันดีในเมืองไทยที่มีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ น้ำตกที่สวยงาม ธรรมชาติที่ร่มรื่นและวัฒนธรรมที่น่าทึ่งทำให้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยือนที่นี่อย่างต่อเนื่อง ในบทความนี้เราจะพาท่านไปสัมผัสสีสันและเสน่ห์ของสังขละบุรีกับ 5 จุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนที่นี่!

1. สะพาญมอญสังขละบุรี

5 จุดเช็คอินชวนสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งสังขละบุรี

สะพาญมอญสังขละบุรีคือสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นในสังขละบุรี ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ ใกล้ชายฝั่ง ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่งดงามและมีกิจกรรมท่องเที่ยวให้เลือกทำมากมาย เช่น การแคนู่ การดำน้ำ หรือเพียงแค่นั่งสัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบและเปิดใจกับความสวยงามของธรรมชาติที่นี่

เมื่อมาถึงสะพาญมอญสังขละบุรี คุณจะรู้สึกเหมือนได้เดินเข้าสู่สวรรค์ของธรรมชาติ ที่นี่มีทั้งทิศทางเส้นทางท่องเที่ยวและพื้นที่สำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนคลายและหายใจกับบรรยากาศของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเที่ยวชมวิว การสำรวจป่า หรือเพียงแค่นั่งชมพระอาทิตย์ตกดินที่นี่ก็อย่างสุขใจและพอใจอยู่แล้ว

2. จุดขึ้นเรือบริเวณเชิงสะพานมอญสังขละบุรี

5 จุดเช็คอินชวนสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งสังขละบุรี

ถ้าคุณต้องการสัมผัสกับความร่มเย็นและทะเลสีฟ้าที่สวยงาม จุดขึ้นเรือบริเวณเชิงสะพานมอญสังขละบุรีคือสถานที่ที่ควรเยือน ที่นี่มีเรือพร้อมให้เช่าเพื่อคุณไปเล่นน้ำทะเล ล่องเรือเพื่อชมวิวทะเล หรือตื่นเต้นกับกิจกรรมทางน้ำอื่นๆ ที่คุณอาจไม่เคยลองทำมาก่อน นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารที่อร่อยและหลากหลายให้คุณเลือกทานกันอีกด้วย

การเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตในชนบทและพบกับการแสดงความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่นี่เป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและน่าสนุกสนาน ความเป็นอยู่ที่งดงามของชาวบ้านและการดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่ายจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่มาเยือนสถานที่นี้

3. วัดวังก์วิเวการาม (ใหม่)

5 จุดเช็คอินชวนสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งสังขละบุรี

วัดวังก์วิเวการาม (ใหม่) เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจในสังขละบุรี ในสมัยก่อนเคยเป็นวัดที่อยู่คู่กับการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่เมื่อสงครามสิ้นสุดลง วัดนี้ถูกสร้างใหม่ในสถานที่เดิมและมีความงดงามสวยงามอยู่แสนอัน

เมื่อคุณมาเยือนวัดวังก์วิเวการาม (ใหม่) คุณจะได้พบกับพระอาทิตย์ที่ส่องสว่างไหล่ลงมาบนหอคอยและสร้างแสงสว่างที่สวยงามเหนือทะเล ที่นี่มีกิจกรรมต่างๆ ที่คุณสามารถทำเพื่อความสนุกสนานและการท่องเที่ยวในวันว่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญ ให้ความกุศล หรือแค่นั่งชมวิวสวยๆ ที่วัดนี้ก็เต็มไปด้วยความสุขและผ่อนคลาย

4. ร้านหมูจุ่มยาใจ

5 ที่พักชวนคุณไปสัมผัส มนต์เสน่ห์แห่งสังขละบุรี อัพเดตใหม่ 2019 - YouTube

ร้านหมูจุ่มยาใจเป็นสถานที่หนึ่งที่คุณต้องไม่พลาดเมื่อมาเยือนสังขละบุรี ร้านนี้มีเมนูอาหารหลากหลายที่เต็มไปด้วยรสชาติอร่อยและเสิร์ฟอย่างใกล้ชิด ที่นี่คุณจะได้ลิ้มรสหมูทอดกรอบๆ ที่อร่อยและนุ่มละมุนลิ้น รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และความอบอุ่นในการบริการของร้านนี้จะทำให้คุณต้องกลับมาที่นี่อีกแน่นอน

5. ด่านเจดีย์สามองค์

5 จุดเช็คอินสังขละบุรี ปักหมุดความฟิน ดินแดนสองวัฒนธรรมไทย - มอญ

ด่านเจดีย์สามองค์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและน่าสนใจในสังขละบุรี ที่นี่มีเจดีย์ที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาซึ่งแสดงถึงความเชื่อทางศาสนาที่สำคัญของคนในพื้นที่ การเดินขึ้นไปที่ด่านเจดีย์สามองค์จะให้คุณมีโอกาสทำกิจกรรมส่วนตัว และทำความรู้จักกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่นี้

เมื่อมาเยือนด่านเจดีย์สามองค์ คุณจะได้เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับศิลปะและวัฒนธรรมของชาวสังขละบุรี ที่นี่คุณจะได้รับศัตรูใหม่ในการเดินทางและรู้จักกับทิศทางในชีวิตอย่างแท้จริง การท่องเที่ยวที่ด่านเจดีย์สามองค์เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจและเต็มไปด้วยความท้าทายที่คุณต้องลองในสังขละบุรี

สรุป

สังขละบุรีเป็นเมืองที่มีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ในประเทศไทย ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นอย่างมากมาย ตั้งแต่สะพานมอญสังขละบุรีที่ให้ความร่มเย็นและความสุขใจทางทะเล วัดที่มีประวัติศาสตร์สำคัญ จนถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยรสชาติอร่อยและความสนุกสนานของร้านหมูจุ่มยาใจ ที่นี่มีความหลากหลายในกิจกรรมท่องเที่ยวและทัศนศิลป์ที่น่าทึ่งทำให้นักท่องเที่ยวมีประสบการณ์ที่น่าประทับใจและจำเป็นต้องมาเยือนอีกครั้ง

FAQs

1. สะพานมอญสังขละบุรีเปิดให้เข้าชมทุกวันหรือไม่?

ใช่ สะพานมอญสังขละบุรีเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เช้าถึงเย็น คุณสามารถเดินเข้าไปชมวิวทะเลและเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่เงียบสงบได้ตามสะดวกของคุณ

2. มีกิจกรรมใดในวัดวังก์วิเวการาม (ใหม่) บ้าง?

ในวัดวังก์วิเวการาม (ใหม่) มีกิจกรรมทางศาสนาและปฏิบัติธรรมให้คุณเข้าร่วมเสมอ นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมสำหรับชุมชนและการเสวนาเรื่องที่น่าสนใจให้คุณเข้าร่วมด้วย

3. ร้านหมูจุ่มยาใจมีเมนูอาหารที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง?

ร้านหมูจุ่มยาใจมีเมนูอาหารหลากหลายที่คุณต้องลอง ทั้งหมูทอดกรอบๆ และเนื้อหมูนุ่มละมุนในน้ำจิ้มซอสที่อร่อย

4. การเดินทางไปยังด่านเจดีย์สามองค์ควรเตรียมตัวอย่างไร?

การเดินทางไปยังด่านเจดีย์สามองค์ควรเตรียมตัวให้พร้อมด้วยการใช้รถและการเดินทางที่ถูกต้อง เนื่องจากด่านเจดีย์สามองค์อยู่บนเขาและต้องเดินขึ้นไปยังจุดเชิงสะพาน

5. สถานที่ใกล้เคียงที่ควรเยือนในสังขละบุรีมีอะไรบ้าง?

นอกจากสถานที่ที่กล่าวถึงในบทความนี้แล้ว คุณยังควรเยือนอื่นๆ อย่างเช่น ทะเลสาบสัมผัสของสังขละบุรี และพื้นที่ธรรมชาติที่สวยงามอย่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

5 จุดเช็คอินชวนสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งสังขละบุรี [ENG CC] [VIDEO]

1 สะพาญมอญสังขละบุรี
GPS : https://goo.gl/maps/phg23sATPdg92Ya56

2 จุดขึ้นเรือบริเวณเชิงสะพานมอญสังขละบุรี
เวลาล่องเรือ : 06.00 – 17.00 น.

3 วัดวังก์วิเวการาม (ใหม่)
พิกัด : หมู่ที่ 2 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
GPS : https://goo.gl/maps/xoZNseMYtS6ABcQV6

4 ร้านหมูจุ่มยาใจ
พิกัด : ตลาดสังขละบุรี ตรงข้ามเซเว่น

5 ด่านเจดีย์สามองค์
พิกัด : ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
ติดต่อสอบถามการเปิด-ปิดด่านได้ที่ ตม.สังขละบุรี โทร 034-595-335
GPS : https://goo.gl/maps/cmcnyYrfqHGCXDBt8

เนื้อหาของวิดีโอ 5 จุดเช็คอินชวนสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งสังขละบุรี [ENG CC]

หากพูดถึงสถานที่ในประเทศไทยที่ต้องไป ผัดให้ได้สักครั้งในชีวิต คงจะต้องมี สังขละบุรีอยู่ในลิสต์อย่างแน่นอนค่ะ เพราะว่าที่นี่เป็นเมืองสองวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ระหว่างวิถีชีวิตของชาวไทยมอญ 2 ฝั่งสะพาน อุตมานุสรณ์ เป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ผู้คนเป็นมิตรและ สถานที่ท่องเที่ยวมีเอกลักษณ์ จึงทำให้เมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ที่ต้องมาเห็นด้วยตาสักครั้งค่ะ ไม่ว่าจะหน้าร้อนที่เราสามารถมองเห็นเมืองบาดาลและวัดจมน้ำได้อย่างสวยงามและชัดเจนที่สุด หรือหน้าฝนที่มีสายหมอกลอยมาให้ฟินเบาๆ และหน้าหนาว สาวที่อากาศเย็นสบายมากๆ ฉะนั้นอย่ารอ ชิลไปไหนขอชวนไปเช็คอินกับ 5 สถานที่ช่วงสัมผัสมนต์เสน่ห์ สังขละบุรี จะมีที่ไหนบ้างตามไปดูกันเลยค่ะ มาเริ่มต้นกันด้วยจุดเช็คอินหลักของเมือง สังขละอย่างสะพานมอญ หรือว่าสะพานอุตตมานุสรณ์ค่ะ เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาวถึง 447 เมตร สร้างโดยหลวงพ่ออุตตมะและชาวบ้านที่มีความศรัทธา สร้างขึ้นเพื่อเป็น ทางเชื่อมระหว่างชุมชนชาวมอญ กลับชุมชนชาวกะเหรี่ยง ให้เดินข้ามสัญจรไปมาระหว่าง ฝั่งแม่น้ำได้สะดวกสบายขึ้นค่ะ สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆสามารถเดินเที่ยวชม ฝั่งไหนก่อนก็ได้ค่ะ แต่ว่าแนะนำให้มาไม่ช่วงเช้าก็ช่วงเย็นๆเลยค่ะ จะได้ไม่ร้อนแล้วก็มั่นใจได้ว่าจะได้รูปสวยๆอย่างแน่นอน ในช่วงเช้าจะมีไกด์เด็กนักเรียนพาเดินชมสะพาน พาเดินเล่นชวนคุยแล้วก็เล่าประวัติความเป็นมาของ พานให้ฟังจนเฟิสเพลินเลยล่ะค่ะ อีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ของสังขละบุรีที่อยู่ในช่วงเช้าค่ะ คือเราไม่ควรพลาดกับกิจกรรมการตักบาตร เพื่อนๆสามารถมา ตักบาตรได้ทั้งจาก ฝั่งไทยและฝั่งมอญค่ะแนะนำให้มาถึงบริเวณที่ใส่ กันประมาณช่วง 6:00 น นะคะ แล้วก็ข้ามไปใส่บาตรที่ฝั่งมอ หรือว่าฝั่งเดียวกับวัดฟังวิเวการามใหม่ คำว่าฝั่งนี้มีตลาดให้เดินซื้อของและร้าน เช้าอย่างพวกโจ๊กชากาแฟและปาท่องโก๋ให้กินเป็นมื้อเช้าด้วยค่ะ ในส่วนของชุดตักบาตรก็มีให้เลือกซื้ออยู่ริมถนนเลย ชุดละประมาณ 99 บาทค่ะ แถมมีชุดนอนให้เลือกใส่ฟรีทั้งของผู้หญิงผู้ชายเลยจ้า ผานั่งเรือไปต่อกันที่วัดใต้น้ำหรือว่าเมืองบาดาล สังขละบุรีกันค่ะ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ ที่ห้ามพลาดของที่นี่ ใครมาถึงแล้วให้เดินไปแถวๆเชิงสะพานมอญ จะมีคนจะเหลือคอยแนะนำและพาเราไปที่ท่าเรือ ซึ่งอยู่ติด สะพานมอญเลยค่ะ หรือก็จะมี หลายแบบหลายขนาดให้เลือก ราคาเช่าเหมาเรือทัวร์เมืองบาดาลตกลำละ 500-600 บาทค่ะ ขึ้น กับที่ตกลง สถานที่ที่จะไป ส่วนใหญ่แล้วจะรวมประมาณ สถานที่ค่ะคือวัดเก่าจมน้ำ หรือวัดวังก์วิเวการาม วัดศรีสุวรรณ จะใช้เวลาล่องเรือประมาณ ถึง 2 ชั่วโมง ทั้ง 3 วัดที่เราจะล่องเรือไปชม ถ้าสังเกตดีๆ หรือว่ามองจากภาพมุมสูงก็จะเห็นได้ว่าวัดทั้ง 3 ทำมุมเป็นสามเหลี่ยมครอบจุดบรรจบของแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำปีขี้และแม่น้ำรันตีที่ไหลมารวมกัน เรียกว่าสามเหลี่ยม ศพนั่นเองค่ะ ใช้เวลาจากสะพานมอญไม่นาน เราก็มาถึงวัดแรกค่ะ คือวัดเก่าจมน้ำหรือว่าวัดวังก์วิเวการามเก่า วัดนี้เป็นวัดมอญวัดแรกที่หลวงพ่ออุตตมะร่วม ชาวบ้านชาวกะเหรี่ยงและมอญ ได้ร่วมกันสร้างขึ้นมาในปีพ.ศ 2527 ค่ะ สำหรับจุดหมายปลายทางต่อไปของเราก็คือวัดศรีสุวรรณค่ะ ซึ่งเป็นวัด ของชาว แต่เนื่องจากเรามาในช่วงหน้าฝนค่ะ วัดจึงจมน้ำแบบที่เรียกได้ว่ามิตรหลังคาไม่เห็นอะไรเลย เราจึงต้องเดินทางต่อไปยังวัดสุดท้าย หรือว่าวัดสมเด็จเป็นวัดไทยและวัดเดียวที่ไม่ถูก น้ำท่วมค่ะ เมื่อมาถึงบริเวณท่าเรือด้านหน้าก็จะมีดอกไม้ ขายชุดละ 20 บาท แล้วเดินขึ้นบันไดไปต่อ ประมาณ 50 เมตรก็จะเห็นตัวโบ ซึ่งภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ค่ะ เราสามารถนำดอกไม้ที่ซื้อมาเข้าไป สาระกันได้เลย นั่งเรือชมวัดเก่ากันแล้ว เราจะพาขึ้นฝั่งไปเที่ยววัดวังก์วิเวการามกันค่ะ วันนี้ชาวบ้านโดยทั่วไปมักจะเรียกว่าวัดหลวงพ่ออุตตมะ เป็นวัดที่สร้างขึ้นใหม่ ถือเป็นศูนย์ จิตใจของผู้คน หลายเชื้อชาติ ที่อาศัยอยู่ในอำเภอ สระบุรีค่ะ ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยชาวกะเหรี่ยงหรือว่าชาวมอญ มีสถานที่สำคัญอยู่หลายแห่ง ทั้งปราสาท 9 ยอด วิหารพระหินอ่อน และอุ สดวัดวังก์วิเวการาม อีกฝั่งนึงของวัดก็ยังมี สถานที่สำคัญ อีกแห่งนึงค่ะ คือใจดี พุทธคยาจำลอง ที่สร้างขึ้นมาโดยหลวงพ่ออุตตมะ จำลองแบบ ฝากเจดีย์พุทธคยาประเทศอินเดีย บนยอดเจดีย์ประ สารีริกธาตุ ที่หลวงพ่ออุตตมะอัญเชิญมาจาก ประเทศศรีลังกา เพื่อไว้ให้ชาวบ้านได้มา สักการะบูชาค่ะ สำหรับปราสาทเก้ายอดภายในจะเป็นที่ตั้งของโรงบรรจุ ของหลวงพ่อ อุตตมะค่ะ มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ทางศิลปกรรมของชนชาติมอญ ทำโดยฝีมือ จากเชียงใหม่ ตัวโลงจะเจาะช่องใส่กระจกให้สามารถมองเห็นภายในได้เรียกว่าลายขุนแผนเปิดม่าน แต่เดิมมีความเชื่อกันว่า การทำปราสาทมอญเป็นการส่งวิญญาณให้ไปสถิตณสรวงสวรรค์ ถือเป็นอีกหนึ่งจุด ค่ะที่เราควรเข้าไป กระทะเพื่อความเป็นสิริมงคลให้ ตัวเองจ้า เที่ยวกันจนเหนื่อยแล้วไปหาอะไรกินกันบ้างดีกว่าค่ะ เราจะพาเพื่อนๆไปชิมหมูจุ่มไม้ละบาท ที่ร้านยาใจ ร้านนี้คนท้องถิ่นเขาแนะนำเลย อยู่บริเวณหน้าเซเว่นสังขละบุรีค่ะ เริ่มขายตั้งแต่ประมาณ 17:00 น ของทุกวัน ถึงที่นี่ ทุกคนก็จะ จับจองที่นั่งค่ะ แล้วก็เริ่มหยิบหมูจุ่มจากในหม้อมากินกัน โดยเนื้อหมูและเครื่องในจะถูก เป็นชิ้นเล็กๆเสียบไม้เป็นร้อยๆไม้วางเรียงอยู่ในหม้อซุป ที่มีรสหวานจางๆคล้ายกับน้ำพะโล้ รอให้ทุกคนไปหยิบทานกันได้ตามใจชอบเลยค่ะ ทานพร้อมกับน้ำจิ้มสูตรเด็ดที่มี 2 สูตรให้เลือก ตาไก่ชอบรสชาติจัดจ้านหน่อย ต้องจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดเลยค่ะ แต่ถ้าใครชอบรสชาติที่อ่อนลงมาหน่อย แต่ก็ยังมีความเผ็ดนัวๆ ก็ต้องจิ้มกับซอสพม่าเลยค่ะ บอกเลยว่าอร่อยถูกใจหยิบจิ้มกันจนเพลินอย่างแน่นอนจ้า ปิดท้ายกันด้วยการไปช้อปปิ้งที่ด่านเจดีย์สามองค์หรือว่าหินสามกองค่ะ จุดกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยและพม่า ซึ่งตามคำบอกเล่าได้กล่าวไว้ว่า ในสมัยก่อนที่แห่ง ช่องทาง ที่สำคัญในการ ทำสงครามไทยพม่า ต่อมาในปีพ.ศ 2472 ศรีสุวรรณคีรีเจ้าเมือง สังขละบุรี จึงได้นำชาวบ้านมาสร้างเจดีย์จากหินกองใหญ่ จนกลายเป็นเจ 3 องค์ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันค่ะ หากใครมาเที่ยวบริเวณนี้ เราขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยการไปสักการะเจดีย์สามองค์ก่อนเลยค่ะ จากนั้นก็เดินเล่นแวะซื้อของฝากตามร้านต่างๆที่อยู่บริเวณด่าน ซึ่งมีสินค้ามากมายที่มาจากฝั่งพม่า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ เครื่องหมายของตกแต่งบ้าน ถ้าใครเดินกันจนเบื่อแล้วไม่รู้จะไปไหนต่อ ก็สามารถข้าม อยากไปเที่ยวพม่ากันได้ค่ะ ใช้แค่บัตรประชาชนและชำระค่าบริการ โดยเจ้าหน้าที่จะเก็บบัตร ประชาชนตัวจริงเอาไว้ 1 ใบและให้ งั้นเราก็ข้ามด่านไป เสียค่าธรรมเนียมเข้าฝั่งพม่าอีกคนละ 40 บาท โดยสามารถเข้าออกได้ตั้งแต่เวลา 6:00 น ถึง 18:00 น ค่ะ หรือถ้าใครอยากมีคนนำเที่ยวเพราะมีรถนำเที่ยวด้วยก็มีให้บริการอยู่ หลายเจ้าเลยค่ะ อยู่ใกล้ๆกับด่านเจดีย์สามองค์เลย โดยจะพาเที่ยวประมาณ 5-7 ที่ เช่นเจดีย์ทองหลวงพ่อทันใจวัดเสาร้อยต้น แล้วก็ ภาษาพม่าค่ะ ราคาก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 300 บาท ต่อคน หรือว่าตามตกลงจ้า เป็นยังไงกันบ้างครับกับพิกัดที่ดีที่เราหยิบมาแนะนำกัน ถูกใจก็อย่าลืมกด Subscribe Channel ติดตามแฟนเพจชูไปไหนไปด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาดเรื่องราวท่องเที่ยวอัพเดทใหม่จากพวกเรา