[SPECIAL] Terminal21 พระราม 3 | ส่องความอลังการกับการเปิดให้บริการวันแรก / TERMINAL21 RAMA3

Terminal21 พระราม 3 เป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพฯ ที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่กว่า 300,000 ตารางเมตร และเปิดให้บริการครั้งแรกในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 โดยที่มีสิ่งที่น่าสนใจอย่างมากใน Terminal21 พระราม 3 นั้นเป็นการออกแบบแต่ละชั้นให้เป็นเรื่องราวและสถานที่ท่องเที่ยวแบบไม่ต้องเดินทางไปยังแต่ละจังหวัดของประเทศไทย อีกทั้งยังมีการแสดงโชว์แสงสีที่สวยงามและกิจกรรมสนุกๆ ที่น่าตื่นเต้นอย่างมากให้คุณได้สัมผัส

ในบทความนี้เราจะส่องความอลังการและเรื่องราวต่างๆ ที่น่าสนใจของ Terminal21 พระราม 3 ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับคนรักการเดินช้อปปิ้งและคนรักการเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามในกรุงเทพฯ

1. สถานที่และตัวละครที่น่าสนใจ

Terminal21 พระราม 3 เป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้าที่มีแต่ละชั้นถูกออกแบบให้เป็นตัวแทนของจังหวัดและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของประเทศไทย ตั้งแต่ชั้น G เป็นต้นไป คุณจะพบกับทั้งแหล่งช้อปปิ้งของแต่ละจังหวัด รวมถึงโรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร และสถานที่สำหรับการเล่นเกมส์ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางไปยังแต่ละจังหวัดของประเทศไทยโดยที่ไม่ต้องเดินทางไกล

2. สถานที่ช้อปปิ้ง

Terminal21 พระราม 3 เป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้าที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการช้อปปิ้งสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องครัว โดยมีร้านค้าชั้นนอกสุดท้ายที่น่าสนใจคือศูนย์สินค้า Gourmet Market ที่มีสินค้าอาหารชั้นเยี่ยมและโดดเด่น นอกจากนี้ยังมีร้านค้าเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่คุณจะไม่อยากพลาด

3. โลกของหนังสือ

ชั้น M ใน Terminal21 พระราม 3 เป็นที่จัดแสดงหนังสือและสื่อต่างๆ โดยเฉพาะหนังสือการ์ตูนที่มีความนิยมอย่างมากในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีร้านค้าขายกระเป๋าและเครื่องหนังเทียม รวมถึงศิลปะและของฝากที่มีคุณภาพดีที่สุด

4. โลกของการกิน

ถ้าคุณชื่นชอบการกินอาหารอร่อยและสนุกสนาน ชั้น LG ของ Terminal21 พระราม 3 คือสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด ชั้นนี้รวบรวมร้านอาหารชั้นนำจากทั่วโลก รวมถึงอาหารไทย อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน อาหารอีสาน อาหารตะวันตก และอาหารอิตาเลียน เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับความหลากหลายของอาหารจากทั่วโลก

5. โลกของภาพยนตร์

หากคุณเป็นคนรักการดูภาพยนตร์ ชั้น SF ใน Terminal21 พระราม 3 เป็นสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด ชั้นนี้เป็นโรงภาพยนตร์ที่มีการติดตั้งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและมีห้องฉายหลายห้อง เพื่อให้คุณได้ชมภาพยนตร์ที่น่าตื่นเต้นและน่าสนุกในหลากหลายแนวเรื่อง

6. แสงสี

Terminal21 พระราม 3 ยังมีแสงสีที่สวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะในช่วงเย็นและกลางคืน ที่ห้างสรรพสินค้าจะเปลี่ยนแปลงโคมไฟและเลเซอร์ต่างๆ เพื่อสร้างความสวยงามและอลังการให้กับบริเวณลานกลางของห้างสรรพสินค้า

7. กิจกรรมและโปรโมชั่น

Terminal21 พระราม 3 เป็นสถานที่ที่จัดกิจกรรมและโปรโมชั่นต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงงานเทศกาลและช่วงเทศกาลเฉพาะของ ที่จะมีกิจกรรมสนุกๆ เช่นการแสดงโชว์ดนตรี การแสดงศิลปะ การแสดงเทคโนโลยี และการแข่งขันในหลายๆ รูปแบบ

8. บรรยากาศ

เมื่อเข้าสู่ Terminal21 พระราม 3 คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร โดยภายในห้างสรรพสินค้ามีสถาปัตยกรรมและการตกแต่งที่ลงตัว ทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับเดินเข้าสู่โลกแตกต่างทุกชั้นต่างๆ ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างสมบูรณ์แบบ

9. การเดินทาง

Terminal21 พระราม 3 มีที่จอดรถสะดวกสบายและระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกและง่ายต่อการเดินทางมากมาย เช่น BTS สถานีช่องนนทรี และรถไฟฟ้า MRT สถานีสีลม และยังมีบริการรถตู้สำหรับการขนส่งสินค้าและลูกค้าที่มาจากต่างจังหวัด

10. ความเป็นมาของ Terminal21 พระราม 3

Terminal21 พระราม 3 เป็นส่วนหนึ่งของเครือห้างสรรพสินค้าอันดับหนึ่งของประเทศไทย Terminal21 ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2550 และเริ่มสร้างสาขา Terminal21 พระราม 3 ในปี พ.ศ. 2559 โดยมีแนวคิดออกแบบแต่ละชั้นให้เป็นเรื่องราวและสถานที่ท่องเที่ยวแบบไม่ต้องเดินทางไปยังแต่ละจังหวัดของประเทศไทย

11. สิ่งที่น่าจับตามอง

Terminal21 พระราม 3 มีสิ่งที่น่าจับตามองอย่างมาก เช่น โครงสร้างอาคารที่สวยงามและหลากหลาย การออกแบบแต่ละชั้นให้เป็นเรื่องราวและสถานที่ท่องเที่ยว การแสดงโชว์แสงสีที่สวยงาม การกำหนดชื่อร้านค้าและหัวข้อของแต่ละชั้นเป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจ

12. การเปิดให้บริการวันแรก

การเปิด Terminal21 พระราม 3 ให้บริการครั้งแรกในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เป็นการเปิดตัวสุดยอดของห้างสรรพสินค้าที่เน้นการเดินทางท่องเที่ยวและการช้อปปิ้ง โดยมีการจัดงานใหญ่อย่างสนุกสนานและน่าจดจำ เช่น การแสดงดนตรีสด การแสดงศิลปะ การแสดงโชว์แสงสี การจัดกิจกรรมสนุกๆ และการแข่งขันต่างๆ เพื่อเป็นการยืนยันว่า Terminal21 พระราม 3 นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและช้อปปิ้งที่หลากหลายและน่าสนใจอย่างแท้จริง

13. การเตรียมความพร้อมก่อนการเปิด

การเปิด Terminal21 พระราม 3 เป็นการเตรียมความพร้อมอย่างมากมาย โดยใช้เวลาเตรียมตั้งแต่หลังจากก่อสร้างเสร็จสิ้นจนถึงวันเปิดให้บริการ เช่น การปรับแต่งและติดตั้งโคมไฟ การจัดแสดงสินค้าในทุกๆ ร้านค้า การเตรียมเครื่องดื่มและอาหารสำหรับร้านค้าและโซนการกิน และการฝึกฝนพนักงานในการบริการลูกค้า

14. ความสำเร็จหลังการเปิด

Terminal21 พระราม 3 เป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้าที่ได้รับความนิยมและความสำเร็จอย่างมากในช่วงเปิดตัว โดยมีคนมาเยี่ยมชมและช้อปปิ้งเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศและสินค้าที่มีคุณภาพดี นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าในช่วงเปิดตัว

15. สรุป

Terminal21 พระราม 3 เป็นห้างสรรพสินค้าที่มีความหลากหลายในการเลือกซื้อสินค้า และมีบรรยากาศที่อลังการและเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมและโปรโมชั่นต่างๆ ให้กับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ถ้าคุณกำลังมองหาสถานที่ช้อปปิ้งและท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ไม่ควรพลาด Terminal21 พร

[SPECIAL] Terminal21 พระราม 3 | ส่องความอลังการกับการเปิดให้บริการวันแรก / TERMINAL21 RAMA3 [VIDEO]

BANGKOK ON SITE SPECIAL พาไปชมภาพบรรยากาศแบบจัดเต็มทั้งภายนอก ภายใน ของศูนย์การค้าแห่งใหม่ล่าสุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา กับ “เทอร์มินอล 21 พระราม 3” (Terminal21 Rama3) สำรวจครบทุกชั้น ชมความยิ่งใหญ่อลังการสมการรอคอยกับการตกแต่งที่ให้เราได้สัมผัสการช้อปปิ้งในเมืองต่าง ๆ ถึง 6 ประเทศในที่เดียว!
ศูนย์การค้าแห่งนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง? แตกต่างจากสาขาอื่นก่อนหน้านี้แค่ไหน? สาขานี้ข้างในมีธีมประเทศอะไรบ้าง ตกแต่งดีมั้ย มีจุดถ่ายรูปเยอะรึเปล่า? มีอะไรขายบ้าง ของกินมีมั้ย ราคาเป็นยังไง? แล้วเดินทางไปยังไงได้บ้าง มีที่จอดรถมั้ย นั่งรถไฟฟ้าไปได้รึเปล่า?! และอีกหลากหลายประเด็นน่าสนใจ งานนี้พาไปเดินสำรวจครบทุกโซนทุกชั้นแบบเจาะลึก
กับภาพคมชัดเหมือนไปเดินด้วยตัวเอง!
พิกัด On Site : https://www.google.co.th/maps/@13.689…

ร่วมติดตาม คอมเมนต์ แบ่งปันมุมมองและความเห็นได้เลยครับ

เนื้อหาของวิดีโอ [SPECIAL] Terminal21 พระราม 3 | ส่องความอลังการกับการเปิดให้บริการวันแรก / TERMINAL21 RAMA3

ยินดีต้อนรับ ทุกคนเข้าสู่รายการ Bangkok on site ตอนพิเศษ กลับบ้านก่อนไซซ์เที่ยวครับ ในวันนี้ผมได้พาทุกคนมาอยู่ที่ศูนย์การค้าแห่งใหม่ล่าสุด พี่เพิ่งเปิดให้บริการกันไปสดๆร้อนๆในวันที่ 20 ตุลาคม 2556 5 แล้วที่นี่ก็ไม่ใช่แค่ศูนย์การค้าธรรมดา จะเรียกได้ว่าเป็นเหมือนทีมพักที่มีการตกแต่งอย่างโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แล้วยังตั้งอยู่บนทำเลสุดอลังการริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย พูดมาขนาดนี้แล้วทุกคนก็คงจะรู้กันแล้วใช่ไหมครับ ว่าในวันนี้เราจะมาสำรวจโครงการ Terminal 21 พระราม 3 3 แห่งนี้นั่นเองครับ สำหรับ Terminal 21 พระราม 3 ที่นี่ก็เป็นศูนย์การค้าในแบรนด์เทอร์มินอลทเวนตี้วัน แผ่นที่ 4 ของประเทศไทย ต่อจากสาขาอโศกสาขาโคราชแล้วก็สาขาพัทยา โดยมีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 140000 ตารางเมตร มีทั้งหมด 7 ชั้นมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 400 ล้านบาท สิ่งที่ได้เห็นกันอย่างแรกภายนอกอาคาร ก็คือการตกแต่งภายนอกของสาขานี้เนี่ย จะต่างออกไปจากอีก 3 สาขาอย่างชัดเจนเลยนะครับ เพราะทางที่อโศกโคราชเราก็พัทยา จะมาในสไตล์โมเดิร์นแบบล้ำสมัย แต่ที่สาขานี้เขาปรับดีไซน์ให้เป็นอาคารแนวยุโรปแบบคลาสสิคหน่อย พร้อมแลนด์มาร์คเป็นหอนาฬิกาสูงๆที่เห็นเด่นแต่ไกล เพิ่งเห็นข้างนอกหน้าตาแบบนี้เนี่ยข้างในจะเป็นยังไงบ้างเดี๋ยวเราเข้าไปชมกันเลยครับ แล้วตอนนี้เราก็เข้ามาอยู่ข้างในกันแล้วนะครับ ซึ่งเดี๋ยวเราจะไล่เดินชมจากชั้นใต้ดินขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุด แล้วไปปิดท้ายกันที่ลานกิจกรรมริมแม่น้ำครับ ต้องบอกไม่ต้องบอกล่วงหน้าก่อนเลยว่า เนื่องจากตัวห้างเขามีความใหญ่โตและสลับซับซ้อนมาก เรียกว่าให้เดินกันหลายชั่วโมงก็ยังไม่ทั่ว ดังนั้นในวันนี้ผมก็จะพาดูภาพรวมแบบคร่าวๆของ ของแต่ละชั้น เราจะพาคุณผู้ชมไปดูให้ครบทุกชั้นและไม่พลาดที่จะไปชมจุดเด่นๆที่น่าสนใจทั้งหมดภายในโครงการ ใครที่เคยมีโอกาสแวะเวียนเข้าไปใช้บริการศูนย์การค้าเทอร์มินอลทเวนตี้วันสาขาอื่นๆกันมาแล้ว ก็คงจะทราบกันดีว่า เอกลักษณ์ของโครงการเข้าทุกสาขาเนี่ย วิธีการตกแต่งพื้นที่ภายในอาคารแต่ละชั้น ให้เป็นบรรยากาศเหมือนในประเทศต่างๆที่มีชื่อเสียงในทุกมุมโลก ทำให้เรารู้สึกเหมือนกับว่าเราได้ขึ้นเครื่องบินไปลงในประเทศนั้นประเทศนี้ทุกครั้งที่เดินผ่านแต่ละชั้น ซึ่งก็เป็นแนวคิดที่ทำให้ศูนย์การค้าแบรนด์นี้ประสบความสำเร็จมากๆ แล้วที่สาขานี้ก็ยังคง Concept เดิมไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้ว่าในบางชั้นจะมีหลายประเทศซ้ำกันกับในสาขา แต่เขาก็ทำออกมาให้มีบรรยากาศ ออกไป แล้วถึงแล้วใครจะเคยไปเดินเทอร์มินอลทเวนตี้วันสาขาอื่นมาแล้วเนี่ย ก็มั่นใจได้เลยว่ามาที่นี่ก็ยังคงรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความแปลกใหม่ได้แน่นอนนะครับ ตอนนี้เราก็ลงมาเริ่มกันที่ชั้น LG หรือว่าชั้นใต้ดินนะครับ ในชั้นนี้เนี่ยการตกแต่งเขาจะมาใน Theme แคริบเบียนวิลเลจ หรือว่าหมู่บ้านริมทะเลแคริบเบียน พูดถึงทะเลแคริบเบียนเนี่ยหลายคนก็คงจะนึกถึง ถึงเรือโจรสลัดและการล่าสมบัติยุคโบราณแบบนี้ ภาพยนตร์ดังนะครับ ซึ่งที่นี่เขาก็เนรมิตเรือโจรสลัดจำลองขึ้นมาทั้งลำเลย มีฉลามจำลอง แขวนไว้ด้วย ซึ่งโรงเรียนนี้ก็เป็นหนึ่งในล้านมาร์คของชั้นนี้แล้วก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่มีคนบ้าเข้ามา ถ่ายรูปกันเยอะมากครับ ที่ชั้น LG นี้ก็จะเป็นโซนสำหรับร้านอาหารต่างๆ ทั้งโซน Food market ที่ทำเป็นบรรยากาศแบบตลาดริมทะเลในยุโรป แล้วก็ Street Food ที่เป็นบูธขนาดเล็ก ซึ่งร้านอาหารในชั้นนี้ส่วนใหญ่จะเป็นบัตรประกันโกลด์หรือว่าซื้อกลับบ้านนะครับ ที่เห็นนี่คือมีเป็นร้อยล้านเลยนะ มีอะไรให้เลือกซื้อเลือกทานกันเยอะมากเลยครับ ร้านค้าร้านอาหารต่างๆก็จะมาในโทนสีขาวสีครีมตัดกับสีฟ้าอ่อน เป็นบรรยากาศแบบเมืองริมทะเลที่สบายตาครับ พอเดินลึกเข้ามาข้างในก็จะเจอกับอีก 1 ล้านมาร์ค ของฉันนี้ เป็นประภาคารขนาดใหญ่ที่สูงทะลุขึ้นไป 3 สามชั้นเลยนะครับ มีการตกแต่งด้วย เถาไม้เลื้อยปลอมมาพันวนรอบให้เป็นแบบอาคารเก่าด้วยครับ ที่ชั้นใต้ดินนี้จะมีซุปเปอร์มาร์เก็ต ของท็อปอยู่ด้วยนะครับ ซึ่งที่สาขานี้จะใช้เป็นโลโก้แบบใหม่ ที่เป็นตัวหนังสือขาวบนพื้นสีแดงแล้วก็ไม่มีคำว่ามาร์เก็ตเหมือนสาขาเก่าๆแล้ว ส่วนของที่ขายภายในกับการตกแต่งโดยรวมก็เหมือนกับสาขาอื่นๆตามมาตรฐาน อีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของศูนย์การค้าเทอร์มินอลทเวนตี้วันทุกสาขา ก็คือการตกแต่งห้องน้ำให้เป็นบรรยากาศตามประเทศของแต่ละชั้น ซึ่งที่สาขานี้ก็แน่นอนว่าออกมาสวยงามจัดเต็มไม่แพ้สาขาก่อนๆเลยนะครับ อย่างตรงนี้ก็คือทางเข้าไปห้องน้ำของชั้น LG ที่เป็นทีมทะเลแคริบเบียน เขาก็ตกแต่งเป็นชายหาดที่เต็มไปด้วยกระดานโต้คลื่น หรือว่าเซิร์ฟบอร์ดครับ มีหุ่นจำลองนักเล่นเซิร์ฟบอร์ดอยู่ตรงนี้ด้วย สมจริงสมจังมากเลยครับ ที่ชั้นอื่นๆเขาจะตกแต่งเป็นแบบไหนเดี๋ยวเราไปดูกันให้ครบทุกที ฉันก็เลยนะครับ ตอนนี้เราก็ขึ้นมาอยู่ที่ชั้น G หรือว่าฉันระดับพื้นดิน ซึ่งเป็นชั้นที่มีทางเดินเข้าออกหลัก จากริมถนนอยู่ด้านหน้านะครับ ที่ฉันนี้จะมาใน Theme English Village หรือว่าหมู่บ้านอังกฤษ ซึ่งถ้าเดินขึ้นมาก็เหมือนหลุดมาอยู่ในลอนดอนยังไง อย่างนั้นเลยครับ ทั้งการตกแต่งลวดลายบนเสากระเบื้องพื้นทางเดิน ตัวหน้าร้านของช็อปต่างๆแล้วก็พูดธงชาติและช่อดอกไม้ที่ขา แขวนไว้บนเพดาน ถือว่าเก็บงานได้ละเอียดมากจริงๆ การตกแต่งแสงสีและการเล่นไฟต่างๆเขาก็ทำได้ดีเลยทีเดียวนะครับ ที่ชั้นนี้ก็จะเน้นร้านอาหารแล้วก็คาเฟ่ แล้วก็มีร้านขายสินค้าแฟชั่น เครื่องประดับแล้วก็เครื่องสำอางต่างๆอยู่ด้วยครับ ทางด้านนี้ก็มีเวทีกิจกรรมซึ่งเนื่องจากในวันที่เรามาถ่ายทำวันนี้เนี่ย ก็เป็นวันแรกของการเปิดให้บริการ ก็จะมีคนคึกคักหนาแน่นมากเป็นพิเศษ แล้วก็มีกิจกรรมประชาสัมพันธ์จัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมกันทุกส่วนทุกชั้นเลยครับ แล้วตรงนี้ก็คือ ทางเข้าห้องน้ำครับ ใช่แล้วครับ ทางเข้าห้องน้ำ ที่ตกแต่งเป็นรถไฟจำลองที่ออกแบบมาคล้ายคลึงกับรถไฟจากภาพยนตร์แฮร์รี่พอตเตอร์ แบบจัดเต็มความละเอียดสมจริง แถมไม่ได้มีแค่หัวรถจักรด้วยนะครับ แต่มาครบเต็มขบวนเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่หน้ามาถ่ายรูปด้วยมากๆเลยครับ ส่วนบรรยากาศรอบๆเขาก็ทำออกมาแบบ สถานีรถไฟคลาสสิคอังกฤษ มีชานชลา 31102 ด้วย แปลกๆ คุ้นๆ เหมือนจะใช่แต่ก็ไม่ใช่ คล้ายๆที่ไหนใครรู้ก็ comment กันเข้ามาได้ครับ แล้วเมื่อพูดถึงการตกแต่งแบบอังกฤษ อีก 1 ล้านมาร์คเด่นที่น่าจะใหญ่โตอลังการที่สุดของศูนย์การค้าแห่งนี้แล้วเนี่ย ก็คือสะพานทาวเวอร์บริดจ์จำลอง ซึ่งถอดแบบจาก สะพานเก่าแก่ที่ลอนดอนมาอย่างละเอียดเลยนะครับ โครงสร้างของตัวสะพานนี้ก็กินพื้นที่ในอาคาร ถุงใหญ่อลังการมาก แล้วที่ตัวเขาคอยทั้งสองฝั่ง สะพานนี้ก็มีช่องให้เดินลอดได้ด้วยครับ ถนนของสะพานเป็นแค่ส่วนโชว์เฉยๆ ไม่สามารถไปเดินข้ามได้จริงๆนะครับ ซึ่งเขาก็มีกำแพงกระจกกั้นไว้จากทั้งสองฝั่ง ไม่ให้ใคร ลงไปเดินครับ ตอนนี้เราก็ชมฉันอังกฤษกันไปเยอะแล้วเดี๋ยวเราขึ้นไปที่ชั้น 5 จัดไปกันดีกว่า จะเป็นประเทศอะไรไปชมกันครับ ชั้นที่เรากำลังจะขึ้นไปคือชั้น 1 ซึ่งต้องบอกผู้ชมไว้ก่อนว่าการนับชั้นของที่นี่เขาจะนับแบบยุโรป คือชั้นพื้นดินเขาจะนับเป็นชั้น G หรือว่าฉันกล่าว แล้วที่อยู่ถัด จากพื้นดินขึ้นมา 1 ชั้นถึงจะนับเป็นชั้น 1 แต่คนไทยหลายๆคนอาจจะคุ้นเคยกับการนับชั้นแบบอเมริกัน คือชั้นพื้นดินเป็นชั้น 1 ถัดขึ้นมาก็เป็นชั้น 2 ซึ่งถ้าเราเข้าใจระบบของที่นี่ก่อนที่จะมาเนี่ย ก็จะไม่สับสนเวลาเรามาตามหา ค้นหาร้านค้าต่างๆในแต่ละ ราชานะครับ แล้วที่ชั้น 1 นี้ก็จะเป็นร้านขายสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้ารองเท้าและอื่นๆ ขึ้นบันไดเลื่อนมาก็มาเจอร้าน Muji ซึ่งด้านในร้านมูจิเนี่ยก็จะมีทางเชื่อมยกระดับ ออกไปที่สะพานลอยข้ามถนน ถนนหน้าอาคารด้วยนะครับ การตกแต่งบนชั้น 1 นี้ก็จะมาใน Theme Italian Village บรรยากาศหมู่บ้านสไตล์อิตาลี ซึ่งก็มีลูกเล่นต่างๆไม่แพ้ฉันอื่นเลยครับ อย่างตรงนี้ก็มีหุ่นจำลองของโรมิโอกับจูเลียต ในฉากสำคัญจากบทละครดังของยุโรป ที่เกิดขึ้นในอิตาลีด้วยครับ เมื่อเดินเข้ามาอีกฝั่งนึงก็จะเป็นโซนร้านอาหารแล้วก็คาเฟ่อีกจำนวนหนึ่งนะครับ ซึ่งตรงแถวนี้เขาก็มีคลองจำลองเล็กๆกับเรือกอนโดล่า ที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองเวนิสอิตาลีด้วย ซึ่งบนเรือก็สามารถลงไปนั่งถ่ายรูปได้ด้วยนะครับ สำหรับห้องน้ำในชั้นนี้เขาก็ตกแต่งออกมาได้บรรยากาศของร้านอาหารอิตาเลี่ยน อย่างร้านพิซซ่าแล้วก็พาสต้า พูดถึงอาหารอิตาเลี่ยนอันดับต้นๆที่คนนึกถึงกันก็คือพิซซ่านี่แหละเนาะ แต่ก็แปลกดีนะครับที่เขาเอาบรรยากาศร้านอาหารมาตกแต่งห้องน้ำ ถือว่าสร้างสรรค์แปลกใหม่เลยทีเดียว ถ้าหิวก็อย่าเผลอเข้าผิดร้านแล้วกันครับ จากตรงนี้เดี๋ยวเราขึ้นไปดูที่ชั้นถัดไปกันต่อนะ ตอนนี้เราก็มาอยู่ที่ชั้น 2 ซึ่งมาใน Theme French Village หมู่บ้านฝรั่งเศสครับ ร้านมาร์คหน้าที่เห็นกันอยู่ตรงนี้ก็คือแบบจำลองบอลลูนของพี่น้อง mongolia ชาวฝรั่งเศสที่สร้างบอลลูนขนาดใหญ่เป็นครั้งแรกของโลกนะครับ เดินออกมาเดินห้างหรือว่ามาเดินพิพิธภัณฑ์กัน ยอมรับในการเก็บรายละเอียดต่างๆ เอาจริงๆนะ สำหรับที่นี่ สำหรับพื้นที่บนชั้น 2 นี้ก็จะเป็นร้านอาหารคาเฟ่ร้านขายสินค้าแฟชั่น มีร้านเครื่องเขียนบีทูเอสแล้วก็ไลฟ์สไตล์ทั่วไป โดยที่เขาก็ตกแต่งได้ดูหรูหราตามแนวฝรั่งเศส ที่มีภาพลักษณ์ของเมืองแห่งศิลปะ เมืองแห่งแฟชั่นระดับโลกนะครับ ที่ชั้น 2 ตรงด้านหน้าของเรานี้ก็จะมีทางออกไปสู่ลานกิจกรรมริมน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเราจะย้อนกลับลงมาดูกันหน่อย ตอนท้ายครับ สำหรับห้องน้ำของชั้นนี้จะตกแต่งเป็นฉากการแข่งขันจักรยานตูร์เดอฟรองซ์ ที่หลายคนก็น่าจะรู้จักกันดี ซึ่งก็เป็นการแข่งขันจักรยานระดับโลกที่จัดในประเทศฝรั่งเศส ผมลืมบอกไปว่าจริงๆแล้วที่แต่ละชั้นเนี่ย เขามีห้องน้ำหลายจุด แล้วแต่ละจุดก็ตกแต่งไม่เหมือนกันด้วยนะครับ ที่ผมพามาดูนี่ก็เป็นแค่หนึ่งในหลายๆจุดเท่านั้น ที่อื่นจะมีหน้าตาเป็นยังไงบ้างเนี่ยอันนี้คุณผู้ชมก็ต้องลอง โทรหาโอกาสและมาดูเอาเองครับ เอาล่ะเดี๋ยวช่วงนี้เราไปต่อกันที่ แล้วทีนี้ก็คือชั้น 3 ซึ่งมี Theme คือจะเป็น Admin Rate หรือว่าหมู่บ้านญี่ปุ่น ซึ่งบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นจะต่างจากสาขาอโศกค่อนข้างชัดเจนครับ อยู่ที่อโศกเขาจะเน้นความเป็นเมืองญี่ปุ่นที่มีสีสันสดใส ส่วนที่นี่จะเป็นเหมือนหมู่บ้านที่อบอุ่นออกแนวหมู่บ้านวัฒนธรรม มีต้นซากุระมีป่าช่วงใบไม้เปลี่ยนสี มีกิจกรรมพื้นบ้านอะไรแบบนี้ เป็นบรรยากาศที่ดูเข้าถึงความเป็นญี่ปุ่นได้มากๆ ในชั้นนี้จะเป็นแหล่งรวมพวกร้านที่จำหน่ายสินค้าและบริการด้านสุขภาพและความงาม รวมทั้งสินค้าไอทีเทคโนโลยีต่างๆแล้วก็ร้านทอง หลายร้านครับ ห้องน้ำของชั้นนี้ตรงทางเข้าจุดนี้เขาก็ตกแต่งเป็นบรรยากาศร้านราเมง ทำเอาซะเหมือนเป็นซอยร้านอาหารเลยทีเดียว บนเพดานก็มีเส้นบะหมี่จำลองให้เป็นระย้าสวยงามน่ากินมาก แถมด้านหน้ายังมีบูธร้านขายราเม็งข้างทางแบบญี่ปุ่นแท้ๆ แล้วตังค์อยู่ด้วย แต่เป็นแค่ของจำลองไม่ได้ทำค่ะ ถามจริงนะครับ เขาก็ต้องย้ำกันอีกทีว่านี่คือฐาน เข้าห้องน้ำนะครับ อีกหนึ่งมุมสวยของชั้นนี้ก็คือทางฝั่งด้านหลังศูนย์การค้าที่หันออกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก็จะเป็นผนังกระจกจุดชมวิวสวยๆ ที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบพาโนรามาได้แบบเต็มๆเลยนะครับ มองลงไปด้านล่างก็จะเห็นลานกิจกรรมบนชั้น 2 ที่เดี๋ยว เขาไปเดินชมกันด้วยครับ แล้วตอนนี้เราก็มาอยู่กันที่ชั้น 4 ต่อเนื่องไปถึงชั้น 5 ซึ่งทั้งสองชั้นนี้จะมาใน Theme ซานฟรานซิสโก Village ซึ่งเป็นบรรยากาศของเมืองแหล่งบันเทิงในอเมริกา ชั้น 4 นี้เขาได้ออกแบบพื้นที่เป็นลานจอดรถทั้งชั้นเลย ดังนั้นเลยมีมุมร้านค้าแค่มุมเล็กๆตรงนี้นิดเดียว ซึ่งก็เป็นที่ตั้งของร้านสปา Let’s relax นอกนั้นก็เป็นแค่บันไดทางเลื่อนผ่าน ขึ้นไปสูตร ชั้น Food Court แล้วก็หลวงพ่อพยนต์บน 1,500 ครับ ซึ่งเอาจริงๆเขาก็มีบันไดเลื่อนตัวยาวอีกคู่นึงที่ลากตรงเชื่อมระหว่างชั้น 3 กับ ชั้น 5 ด้วยนะครับ บนชั้น 5 ทางขวามือของเราจะเป็น Food Court เพียง 20 ส่วนโซนอื่นข้างหน้าแล้ว ทางซ้ายก็จะเป็นแหล่งรวมความบันเทิงรูปแบบต่างๆ มีทั้งสวนสนุกสำหรับเด็ก ฮาร์เบอร์แลนด์ มีฟิตเนสมียิมมวยไทย แล้วก็โรงภาพยนตร์ SF Cinema City Strong ครับ สำหรับ Food Court ของที่นี่ก็ยังเป็นเพียง 20 เช่นเดียวกันกับที่เทอร์มินอลทเวนตี้วัน สาขาอื่น ซึ่งก็ยังคงเอกลักษณ์อาหารอร่อยราคาไม่แพง โดยรวบรวมอาหารและเครื่องดื่มร้านอร่อยร้านดังมาให้เลือกทานกันมากมายหลาย หลายสิบล้านหน่อยนะครับ หนึ่งในจุดที่ผมชอบคือมีที่นั่งบางมุมอยู่ติดฟิล์มกระจก นั่งทานอาหาร หลานไปชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาไป บรรยากาศมากครับ สำหรับ Food Court ที่สาขานี้เขาก็รองรับการชำระเงินทั้งแบบแลกบัตร หรือจะสแกนจ่ายผ่านแอปธนาคารกับหน้าร้านโดยตรงเลยก็ได้เช่นกันนะครับ เรียกว่าสะดวกมากๆเลยสำหรับยุคไร้เงินสด แบบนี้ครับ ซึ่งถ้าใครที่แลกบัตรมาเวลาจ่ายเราก็ไม่ต้องยื่นให้คน ขายนะครับ แต่ให้เอา QR code หลังบัตร สแกนกับเครื่องสแกนที่หน้าร้านแบบนี้ได้เลย หรือถ้าใครจะจ่ายด้วยแอปธนาคารก็เปิด App แล้วสแกนที่เครื่องเดียวกันเหรอครับ และนี่ก็เป็นบรรยากาศของ ของโซน Food Court Shenzhen บนชั้น 5 แห่งนี้นะครับ ถ้าใครมาช่วงเที่ยงหรือว่าช่วงเย็นก็อาจจะต้องเดินหาที่นั่งกันหน่อย เพราะอย่างตอนนี้เนี่ยคนก็แน่นมากเลย สุดท้ายก่อนที่จะจบกันไปอย่างนี้ ที่ผมบอกไปแล้วว่า ที่เทอร์มินอลทเวนตี้วันพระราม 3 แห่งนี้เนี่ย ยังมีอีก 1 พื้นที่ไฮไลท์ นั่นก็คือลานกิจกรรมกลางแจ้งริมแม่น้ำเจ้าพระยาบนชั้น 2 นั้นเอง ที่ตรงนั้นจะมีอะไรบ้างเดี๋ยวเราลงไปชม แล้วตรงนี้ก็คือทางออกจากชั้น 2 หรือว่าชั้นหมู่บ้านฝรั่งเศส ไปสู่ลานกว้างริมแม่น้ำที่เรียกว่า River แขวนนะครับ ซึ่งในวันนี้เนี่ยเขาก็อยู่ระหว่างการเตรียมงาน Grand Opening พิธีเปิดศูนย์การค้าแห่งนี้อย่างเป็นทางการ ก็เลยมีการกั้นพื้นที่วางเครื่องมือและอุปกรณ์อะไรต่างๆเยอะแยะนิดนึง แต่เราก็ยังสามารถมองเห็นภาพรวมของลานกิจกรรม ได้ครับ คือต้องบอกว่าวิวทิวทัศน์จากร้านตรงนี้เนี่ยก็ไม่ได้เป็นจุด ถ่ายนักนะ เพราะว่าทางฝั่งริมน้ำบนชั้นนี้เขาจะมีกำแพง แล้วก็แนวต้นไม้สูงเป็นผล ทำให้บดบังวิวพอสมควร แต่เป็นจุดที่เหมาะกับการถ่ายรูป ฉากหลังเป็นตัวอาคารของศูนย์การค้า ฝั่งที่หันออกริมแม่น้ำมากกว่า ซึ่งเวลามองย้อนเข้าไปก็จะเห็นอาคารรูปทรงนีโอคลาสสิก ตัดกับผนังกระจกแบบเดียวกับฝั่งด้านหน้าเด่นชัดสวยงาม ส่วนจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นแม่น้ำสวยๆนั้นก็จะอยู่บนชั้น 3 ที่เราได้แวะชมกันไปแล้วเมื่อก่อนหน้านี้นั่นเองครับ และนี่ก็คือภาพบรรยากาศโดยรวมแบบคร่าวๆของโครงการเทอร์มินอลทเวนตี้วันพระราม 3 แบบนี้นะครับ ก็เป็นอีกหนึ่งศูนย์การค้าที่มีมุมสวยๆมากมายให้มาถ่ายรูปและชมวิวกัน รวมทั้งร้านค้าร้านอาหารอีกหลายร้อยล้านที่เรียกว่าถ้าแวะเข้ามาเดินเนี่ยยังไงก็ต้องได้อะไรติดไม้ติดมือกลับ ไปกันแน่นอนครับ ส่วนสำหรับการเดินทางมาที่นี่ก็สามารถมาได้หลายวิธีเลย ทางด้วยรถไฟฟ้าเรือรถเมล์รถ brv แล้วก็รถยนต์ และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งถ้ามาด้วยรถเมล์ด่วนพิเศษ brt ก็ให้ลงที่สถานีเจริญราษฎร์ แล้วเดินแค่ประมาณ 100 กว่าเมตรก็มาถึงหน้าห้างเลย ถ้ามาด้วยรถเมล์ธรรมดาก็จะมีสาย 22 สาย 35 สาย 89 แล้วก็สาย 205 ที่ผ่านมา โดยตรง นอกจากนั้นเขาก็ยังมีรถชัตเติ้ลบัสวิงเวียนระหว่าง สถานี BTS สุรศักดิ์ หน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยาพระราม 3 สถานี brt สะพานพระราม 9 แล้วก็เข้าสู่ เทอร์มินอลทเวนตี้วันให้บริการ ฟรีด้วย หรือถ้าใครมารถยนต์ส่วนตัวเนี่ยที่นี่เขาก็มีอาคารจอดรถขนาดใหญ่ ที่รองรับรถได้สูงสุดถึง 2000 คันไว้ให้บริการด้วยเช่นกัน ส่วนสำหรับวิธีการเดินทางอื่นๆนอกเหนือจากนี้รวมทั้งตารางเวลาให้บริการรถ ชัตเติ้ลบัสเนี่ย กูไม่ยอมก็สามารถไป ติดตามอัพเดทได้จ้ะ รู้จักชื่ออย่างเป็นทางการ ของศูนย์การค้าเทอร์มินอลทเวนตี้วันพระราม 3 เขาได้เลยนะครับ ชมจบแล้วหากใครมีข้อเสนอแนะหรือประเด็นอะไรที่อยากจะแบ่งปันเกี่ยวกับโครงการนี้ รวมทั้งรายการของเรา ร่วมแสดงความเห็นกันได้อย่างอิสระเช่นเคย แล้วก็อย่าลืมกดไลค์กดแชร์ หรือถ้าใครยังไม่ได้ ติดตามข่าว Subscribe และกดกระดิ่ง เพื่อการติดตามชมการอัพเดทสถานที่ที่น่าสนใจอื่นๆ จากรายการของเราต่อไปได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่ในรายการบางอ้อก่อน Cyrus Special ep ต่อไปนะครับ สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ